เรามักจะไม่ได้ ใช้ชีวิต ตามที่ตัวเองต้องการ แต่เรามักจะใช้ชีวิตตามที่คนอื่นต้องการ เวลาที่เราไม่ได้ใช้ชีวิตตามที่ตัวเองต้องการมันเป็นธรรมชาติมาก ๆ ที่เราจะเกิดความรู้สึกอึดอัด
แต่โดยธรรมชาติแล้วคนเราจะใช้ชีวิตไปตามคุณค่าสังคมรอบข้างที่ตีกรอบไว้ให้เสมอเลย…
โดยธรรมชาติแล้วนั้น คนเราก็มักจะดำเนินชีวิตไปตามคุณค่าของสิ่งที่อยู่รอบตัวเราเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการถูกตีกรอบจากครอบครัว สภาพแวดล้อมรอบข้างหรือว่ากฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่อยู่ในสังคมใหญ่ของเราเองก็ตาม
บางครั้งสิ่งเเหล่านี้ก็สร้างภาวะความกดดันรู้สึกอึดอัดอยู่ในจิตใจของเราได้มากเลยทีเดียว
อยาก ใช้ชีวิต ของตัวเอง
ในช่วงวัยเด็กของเรา การที่เราอยากเป็นตัวของตัวเอง เหมือนกับที่เราอยากทำอะไรแบบที่เราต้องการ เป็นอย่างที่เราอยากจะเป็น ไปเที่ยว หรือว่าอะไรก็ตาม อย่างที่เราต้องการ มันคงเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ๆ
เมื่อวันหนึ่งที่เราจะต้องมาใช้ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ แน่นอนว่าเราจะต้องคำนึงถึง สิ่งต่าง ๆ รอบตัวให้มากขึ้น เพราะในวัยเด็กของเราอาจจะไม่ได้คิดหรือว่ามองเห็นว่าใครยอมรับเราหรือเปล่า
หรือว่ามีใครที่สามารถเข้าใจในตัวของเราไหม หรือว่ารักเราในแบบที่เราเป็นจริง ๆ แบบนั้นได้หรือเปล่า
การโตเป็นผู้ใหญ่ มีอะไรมากกว่าที่คิดในด้านการ ใช้ชีวิต
เมื่อเราโตขึ้นมา สิ่งเหล่านั้นจะถูกเข้ามาตีกรอบและครอบงำของตัวเราเอง ทำให้หลาย ๆ ครั้ง เราก็ต้องทำตามความต้องการของคนอื่นอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน
โดยทั่วไปมักจะเห็นอีกสิ่งหนึ่งหรือที่มักจะต้องทำตามความต้องการของคนอื่น ที่เราไม่สามารถทำตามความต้องการของตัวเราเองได้ นั่นก็คือการเลือก อาทิเช่น
- การทำงาน
- การเรียนในสิ่งที่อยากเรียน
- การใช้ชีวิต
เพราะเขาอาจจะมอบสิ่งเหล่านั้นให้เราเพียงเพราะว่ารู้สึกว่ามันคือสิ่งที่ดีที่สุด หรือเป็นสิ่งที่เขาเลือกให้กับเราและมันอาจจะเป็นสิ่งที่ดีกับเราเอง
แต่ในขณะเดียวกัน เราอาจจะไม่ได้รู้สึกว่ามันดีกับเราอย่างไร เราจึงเกิดความคิดเห็นที่มันขัดแย้งกับความต้องการของคนอื่นที่ไม่ได้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน
ครอบครัวคือเป้าหมาย หรือว่าแรงกดดันที่มีชีวิต…
ถ้าพูดถึงจุดนี้เรามักจะนึกถึงสังคมในครอบครัวเป็นหลัก เพราะบางทีครอบครัวก็เป็นอีกฐานหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่า เราจะต้องรู้สึกผิดกับสิ่งที่เราไม่ได้ทำอย่างที่เขาต้องการ เราจะต้องผิดหวังในตัวเอง
ถ้าเราไม่สามารถทำอย่างที่ครอบครัวคาดหวังกับเราได้ ซึ่งหลาย ๆ ครั้งมันทำให้เรากดดันตัวเอง หรือว่าผลักดันตัวเองไปในทิศทางที่คนอื่นต้องการ
แต่ในขณะเดียวกัน เราก็สามารถรับรู้ได้ว่าความคาดหวังมันคืออะไร แต่ถ้าทำให้ได้เช่นนั้นมันก็เป็นเรื่องที่ยากเช่นกัน ทำเพื่อลดแรงจากภายนอก แต่มากดดันภายในตัวเอง
เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงความรู้สึกผิด หรือแม้กระทั่งความรู้สึกที่เราผิดหวังในตัวเอง จากการที่เราทำตามความคาดหวังของคนอื่นไม่ได้ ทำให้ความต้องการของคนอื่นหรือว่าครอบครัวหรือเป็นอย่างที่คนอื่นอยากให้เป็น
การกระทำที่เรามักจะเลือกทำเพื่อเลี่ยงหรือว่าลดแรงกดดันจากรอบข้าง และเพื่อความสบายใจของตัวเอง และไม่รับแรงกดดันจากรอบข้างที่มันมากเกินไปด้วย
คนรอบข้างคาดหวังในตัวเราให้ ใช้ชีวิต ตามที่เขาต้องการ
ความขัดแย้งในใจ มันมักจะมาจากการที่ตัวเราเองคาดหวังในแบบหนึ่งแต่ในขณะเดียวกัน สภาพแวดล้อมหรือคนรอบตัวเรา เค้าคาดหวังกับเราในอีกรูปแบบหนึ่ง
ทำให้เกิดเป็นความขัดแย้งในใจได้ และจะตามมาด้วยความรู้สึกอึดอัด หรือว่าคับข้องใจ หรือกับบางคนเกิดเป็นความรู้สึกสับสนในตัวเองด้วยซ้ำ
เมื่อเราไม่ได้เป็นตัวเอง และเป็นแบบที่คนอื่นอยากให้เราเป็นอยู่ตลอดเวลา บางครั้งตัวเราเองก็จะรู้สึกเหนื่อยที่จะทำ ไม่มีแรงจูงใจที่จะเป็นในอย่างที่เขาอยากให้เป็น
กับบางคนหรือว่าบางครอบครัวทำให้เกิดปัญหาทะเลาะเบาะแว้ง ทำให้ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ แต่ยังยอมทำตามเพราะยังรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่จะต้องทำ เพื่อลดความรู้สึกผิดบางอย่างในใจ
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่มักจะถูกปลูกฝังมาและเป็นความเชื่ออย่างหนึ่งว่า ครอบครัวเป็นสิ่งที่เราจะต้องทำตามทำให้เราคิดว่านั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด ที่เค้าสามารถเลือกให้เราได้
แต่ความจริงนั้นเราควรจะสามารถเลือกได้ด้วยตัวเองว่าเราต้องการให้ตัวเองเป็นอย่างไร ตัดสินใจและเลือกทางที่ดีที่สุดให้กับตัวเองได้
หลาย ๆ คนอาจจะรู้สึกเหมือนกับว่าเราไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างที่เราอยากจะใช้หรือว่า ได้เป็นอย่างที่เราอยากจะเป็น แต่ในขณะเดียวกันเราต้องทำตามความต้องการของคนอื่น เป็นอย่างที่คนอื่นอยากให้เป็นอยู่ตลอดเวลา
ถ้าเรามีคำถามเหล่านี้กับตัวเอง ลองสังเกตุตัวเองว่าสิ่งที่เราทำจนเกิดคำถามกับตัวเอง มาจากที่เราทำจนชินแล้วติดเป็นนิสัยของตัวเองหรือเปล่า
เป็นเพราะเราเองต้องทำ เป็นสิ่งที่เราอยากจะทำ หรือว่าเป็นสิ่งที่เราทำเพื่อลดความรู้สึกผิดในตัวเราเองหรือเปล่า
การที่เรามีคำถามเหล่านี้กับตัวเอง หรือถามตัวเองสักครั้งกับคำถามเหล่านี้ มันอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราเข้าใจความรู้สึกของเราเองได้มากขึ้น หลังจากที่เราได้คำตอบจากการแสดงออกของเราเองแล้ว
บางครั้งมันทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้นว่าเราทำไปเพราะมันเป็นนิสัยของเรา หรือเพียงเพราะว่าเราต้องการการยอมรับจากคนรอบข้างหรือครอบครัวของเราเองหรือเปล่า
แต่ถ้าเมื่อใดก็ตาม ที่เราไม่เคยตั้งคำถามกับสิ่งที่ตัวเองทำเลยนั้น เราจะไม่มีทางได้คำตอบเพื่อทำให้ชีวิตของเรานั้น มีความสุขได้มากยิ่งขึ้น
เมื่อเราทราบว่าอะไรคือความรู้สึกของเราจริง ๆ มันทำให้เราสามารถจัดการกับตัวเองและจัดการกับความรู้สึกขัดแย้งในตัวเองได้
ยิ่งกว่านั้นหากเราไม่รู้สึกสับสนในตัวเอง หรือว่าขัดแย้งในตัวเอง ไม่ได้เป็นอย่างที่เราอยากจะเป็น แต่ในขณะเดียวกันเราก็ยังคงทำตามความต้องการของคนอื่นได้
ก็สามารถลดความขัดแย้ง หรือว่าความรู้สึกแย่ รวมไปถึงไม่ต้องมารู้สึกผิดกับการเป็นตัวของตัวเองด้วยเช่นกัน
Post Views: 3,795