ปล่อยใจ

ปล่อยใจ เหมือนทุกวันคือวันสุดท้าย

เรื่องAdminAlljitblog

หนังสือ “ช่างมันเถอะ อีกไม่กี่ปี เราก็เป็นเถ้าธุลีกันหมดแล้ว” สำนักพิมพ์ Amarin How to

 

หนังสือเล่มนี้เป็นรวมบทความจิตวิทยา เขียนโดยจิตแพทย์ชาวญี่ปุ่น ชื่อ คุณฟุจิโนะ โทโมยะ

 

ซึ่งจากปกก็ดูเหมือนว่าผู้เขียนก็เป็นคนที่ดังพอสมควรเลยเพราะมีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน 

 

 

ตอนนี้เราเข้มงวดกับตัวเองมากไปรึเปล่า

 

Self-compassion

 

หลาย ๆ บทในเล่มพูดถึงประเด็นที่ว่า เราผ่อนคลายกับตัวเองบ้างก็ได้นะ เราผิดพลาดได้ เราขี้เกียจได้ เราเห็นแก่ตัวบ้างก็ได้

 

ถ้าเรามองว่าชีวิตเรามีจำกัด แล้วเราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้เราจะมีชีวิตอยู่อีกไหม แล้วเอาแนวคิดนี้มาทบทวนแต่ละวันของตัวเองใหม่ เราจะพบว่า บางอย่างไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำก็ได้ 

งานของวันพรุ่งนี้

ในเล่มจะมีบทหนึ่งที่พูดถึง งานของวันพรุ่งนี้ คุณ ฟุจิโนะ เขียนไว้ว่า

 

ถ้าพักวันนี้ได้ ก็พักวันนี้ดีกว่าไหม เราจะเอาเวลาพักของวันนี้ไปทำงานของวันพรุ่งนี้ทำไม  มันก็คือการบริหารเวลาแบบที่ทำให้สุขภาพกายและใจเราดีไปด้วย 

 

หมดไฟ

บางทีเรา หมดไฟในงาน หรือสุขภาพกายสุขภาพจิตเสีย ก็อาจจะเพราะเราทำงานของวันพรุ่งนี้นั้นแหละ

 

เราใช้พลังงานมากเกินจำเป็นจนมันหมดไฟไปเลย ซึ่งมันก็ไม่ดีต่อการทำงานในระยะยาว

 

คุณฟิจิโนะเขียนไว้ว่า “คนจำนวนมากป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเพราะไม่ได้หยุดพักในจังหวะเวลาที่เหมาะสม”

 

เพราะฉะนั้น เราอาจจะไม้ต้องหักโหมกับหลายๆ สิ่งในชีวิตมากก็ได้ เอาแบบพอดีแต่ทำได้ยาวๆ ดีกว่าทำเยอะๆ แล้วหมดไฟเร็ว

 

หาตัวช่วย

อะไรที่เราไม่ชอบ ไม่อยากทำ ถ้าเป็นไปได้เราก็หาตัวช่วยดีกว่า หาคนที่ช่วยเราทำงานส่วนนี้

 

หรือเครื่องมือสักอย่างที่ช่วยแบกภาระตรงนี้ของเราออกไป เราจะได้เก็บแรงไปทำหน้าที่ส่วนอื่นที่เราทำได้ดีดีกว่า

 

เราปล่อยมือจากอะไรได้บ้าง

ทบทวนกับตัวเองก็ได้ว่า เราปล่อยมือจากอะไรได้บ้าง แล้วเราจะพบว่ามีงานหลายๆ ส่วนที่ไม่จำเป็นต้องเป็นหน้าที่เรา

 

เราปล่อยไปบ้างก็ได้ เพราะอย่าลืมว่า หลายๆ อย่างในโลกนี้มีคนทำแทนได้ แต่สุขภาพเราต้องดูแลเอง 

 

ใช้ชีวิตให้มีความสุข

เราควรใช้ชีวิตในแต่ละวันให้มีความสุข ความตึงเครียดไหนที่มันเลี้ยงได้ เราก็เลี้ยงบ้าง ไม่ต้องสู้กับมันทุกอัน

 

เพราะตัวเราเองก็ควรเก็บแรงและความจริงจังไปกับอะไรที่ซีเรียสที่มันอาจจะเกิดขึ้นในอนาคตดีกว่า 

 

ปรับมุมมอง

สิ่งสำคัญอีกข้อเลยคืออย่าลืมให้กำลังใจตัวเอง หลายครั้งมักจะเป็นตัวเราที่โบยตีตัวเองมากที่สุด

 

หนังสือยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราตื่นสาย เราอาจจะตำหนิตัวเองว่าทำไมขี้เกียจ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงมันอาจจะแค่วันเดียวที่เราพลาด แล้วมันก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากด้วย 

 

ลองเปลี่ยนความคิดที่ว่า “วันนี้เราทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง” เป็น “ขนาดวันนี้เหนื่อยมากแต่ก็ยังลุกมาอาบน้ำไหว”

 

ก็เพิ่มพลังใจให้เราได้มากเหมือนกัน หลายอย่างในชีวิตเรามีข้อดี แค่ต้องปรับมุมมอง แต่บางทีเราก็หลงลืมอะไรแบบนี้ไป ซึ่งเป็นปกติ

 

แต่เราฝึกที่จะใจดีกับตัวเองได้ ฝึกผ่อนปลนตัวเราเองบ้าง คุณฟุจิโนะเขียนไว้ในเล่มครับว่า “เมื่อไหร่ที่เราใช้ชีวิตแบบไม่ฝืน เมื่อนั้นเราจะเปล่งประกายมากที่สุด”

 

เพราะฉะนั้นแล้ว เราลองมาฝึกใช้ชีวิตให้เหมือนวันนี้เป็นวันสุดท้าย ฝึกแบ่งเวลาเพื่อตัวเราเอง ไม่แน่ว่าถ้าทำได้ สุขภาพใจเราอาจจะดีขึ้นก็ได้

 

 

 

ถ้าใครกำลังรู้สึกว่าชีวิตช่วงนี้มันหนักเกินไป ลองให้คุณฟุจิโนะคอยปลอบเราและเตือนว่า เราสามารถมีความสุขได้ตั้งแต่ตอนนี้ ดีกว่าเครียดสะสมจนเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต 🙂