ชีวิตเราไม่ได้ยืนยาว พอที่จะอยู่อย่างอดทน

เลิกทำในสิ่งที่ไม่เหมาะกับตัวเอง เพราะ ชีวิตเราไม่ได้ยืนยาว พอที่จะอยู่อย่างอดทน

เรื่องAdminAlljitblog

หนังสือ ชีวิตเราไม่ได้ยืนยาว พอที่จะอยู่อย่างอดทน 

 

เขียนโดย จิตแพทย์ คุณซูซูกิ ยูซึเกะ 

 

 

หนังสือเล่มนี้เป็น 28 วิธีคิดที่เพื่อชีวิตที่ปลอดโปร่งสบายใจ เลิกฝืนทำสิ่งที่ตัวเองรู้สึกแย่ เลิกเดินตามความคาดหวังของคนอื่น และหันมาใช้เวลาในแต่ละวันเพื่อตัวเองจริง ๆ สักที

 

ชีวิตของเรามันไม่ยั่งยืนยืดยาวอะไรขนาดนั้นจริง ๆ นะ เคยคิดเหมือนกันว่า ในการที่เราใช้ชีวิต การที่เราจะทำอะไรเพื่อตัวเองคืออะไร

 

ซึ่งวันนี้เราจะหยิบยกมา 2 บทที่อยากนำมาให้คุณผู้อ่านได้อ่านกันค่ะ 🙂

 

 

บทที่ 1

  • ทิ้งสิ่งที่ทำให้ รู้สึกแย่ หรือ ไม่สนุก

เพราะทำงานแล้วเพราะเป็นผู้ใหญ่ ทำให้ต้องอดทนอะไรมากมาย ต้องฝืนทำอะไรจนร่างกายเริ่มส่งสัญญาณเตือนว่าเริ่มไม่ไหวแล้วนะ

 

แนวคิดการเป็นผู้ใหญ่ และการทำงาน คุณซูซูกิไม่ได้เห็นต่างด้วยนะ เขาเข้าใจว่ามนุษย์ต้องทำมาหากินถึงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ 

 

‘ แต่…โลกนี้มีคนมากมายที่ไม่แม้แต่จะรู้ตัวว่างานนั้นหรือคนคนนั้น ไม่เหมาะกับตัวเอง ‘

 

คุณซูซูกิได้ยกตัวอย่างว่า ถ้าเกิดเราอยู่ในครอบครัวที่ทุกคนเป็นครู เราเลยเป็นครูตามครอบครัวเรา แล้วเราดันทำอาชีพ ครูได้ดี ทำได้ถนัด ทำแล้วมีคนชื่นชม

 

แต่สิ่งที่เราเป็นทำให้สัญญาณร่างกายที่เราส่งออกมา มันตรงกันข้าม เราไม่มีความสุข ทุกข์ใจ คุณซูซูกิได้บอกว่า เวลาทำสิ่งที่ทำได้ดี แม้ไม่อยากทำ เราได้รับคำชมแล้วคำชมนั้นก็เหมือนปิดหูปิดตาเราอีกทีหนึ่ง

 

จนไม่รู้ตัวว่าจริง ๆ แล้วสิ่งนั้นเราไม่อยากทำ นอกจากเรื่องงานแล้ว คุณซูซูกิ ก็ได้พูดเรื่องคน

 

‘ โลกนี้ยังมีคนที่ทำให้รู้สึกว่า ไม่ใช่คนไม่ดี แล้วก็คงไม่ได้คิดร้ายอะไรกับเรา แต่อยู่ด้วยแล้วเหนื่อยยังไงไม่รู้ ‘

 

คนที่เรารู้สึกว่าเราอยู่ด้วยแล้วเหนื่อย เขาไม่ใช่คนไม่ดี ไม่ใช่คนที่คิดร้าย แต่เรารู้สึกว่าเรากับเขาเข้ากันไม่ได้ นั้นแหละคือสิ่งที่ร่างกายเราส่งสัญญาณถ้าเราอดทนไปเรื่อย ๆ

 

มันอาจจะบั่นทอนจิตใจเราจนเหมือนการทำร้ายความรู้สึกตัวเอง เมื่อรู้สึกแบบนั้นให้ถอยห่างออกมา ถ้าถอยออกมาแล้วเรารู้สึกว่าการอยู่ใกล้เขามันดีกว่าการถอย ก็ค่อย ๆ เขยิบเข้าไปใกล้เขาใหม่

 

แต่กว่าเราจะรู้ว่าอะไรที่เข้ากับเราได้ อะไรที่เข้ากับเราไม่ได้ เราจะรู้ได้ยังไง จะมีทักษะในการคัดกรองได้ยังไง คุณซูซูกิก็มีทริคมาบอกเราเหมือนกัน

 

  • ให้จับสัญญาณของร่างกายเราให้ดีเวลาที่มนุษย์ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่ชอบ ร่างกายจะส่งออกมาอย่างไว แต่ความมนุษย์ของเราจะมีความเชื่อ อารมณ์มาครอบงำ สัญญาณนั้นทำให้เราปฏิเสธไป “ปวดท้อง ไม่สบายใจ คลื่นไส้” 3 อย่างนี้ จะปรากฎผ่านร่างกายเพื่อตอบว่าเริ่มไม่ไหวแล้วนะ

 

  • รู้สึกดีจัง อารมณ์ดีจัง  เมื่อเราเจอแล้วว่าสิ่งอะไรที่ทำให้เรารู้สึกดี ให้เราดื่มด่ำกับสิ่งนั้น ถึงแม้ว่าสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกดี จะเป็นแค่จินตนาการ เรื่องผิดศีลธรรม เรื่องที่เล่าให้ใครฟังไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร และการที่เรากำลังดื่มดำ ให้ตัดเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงรู้สึกดี หรือ ทำไมถึงรู้สึกไม่ดี เพราะถ้าเราคิดหาเหตุผลแล้วจะทำให้เราหลุดสัญชาตญาณการแบบสัตว์

 

  • เวลาผ่านไปช้า เวลาผ่านไปเร็วถึงจะมีเวลา 1 ชั่วโมงเท่ากัน แต่เวลาที่เราทำสิ่งที่ชอบ ทำสิ่งที่สนุก เราจะรู้สึกผ่านไปเร็ว และทำในสิ่งที่ไม่ชอบ แม้จะผ่านไป 1 นาทียังรู้สึกว่านาน ทั้งการใช้ชีวิต หรือการอยู่กับความสัมพันธ์ ผู้คนที่ทำให้เรารู้สึกว่าอยู่ด้วยแล้วพลังการใช้ชีวิตลดลง และเมื่อเรารู้ว่าอะไรที่เราอยู่ด้วยแล้วรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปช้าจัง ก็ควรหลีกเลี่ยงมันให้ดีที่สุดดีกว่า

 

 “ถอยห่างจากสิ่งที่ไม่ชอบ ปฏิเสธสิ่งที่ไม่ต้องการ เลิกทำสิ่งที่ไม่เหมาะกับตัวเอง”

 

ในช่วงแรกเราอาจจะไม่เก่งพอที่จะทำอะไรแบบนี้อาจจะมีเสียงรบกวนในหัวว่าเราสามารถทำได้จริงหรอ สิ่งที่ทำมันถูกไหม แล้วถ้าทำไปแล้วโดนเกลียดโดนไม่ชอบขึ้นมาจะทำยังไง

 

แต่เชื่อไว้เถอะว่า ชีวิตมันคือการลอง ลองทำสิ่งที่เราไม่ชอบ ลองคบคนที่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจ ไม่ชอบตัวเองเลยเวลาฝืนใจทำ เพราะเมื่อเรารู้แล้ว

 

เราจะได้รู้ก็จดจำความรู้สึกนั้นไว้และนึกไว้เสมอว่า ชีวิตเราไม่ได้ยืนยาวที่จะอดทนกับความรู้สึกเหล่านั้น

 

 

บทที่ 2

ชีวิตหาคอนเทนต์

 

คุณซูซุกิขึ้นเริ่มมาด้วยประโยค เราจะเข้าหาคนที่รู้สึกอยากตายยังไงดี?

 

คำตอบที่เป็นสูตรสำเร็จของแพทย์ให้บอกว่า สัญญากันก่อนนะว่าจะไม่ตาย คุณซูซุกิบอกว่า แพทย์อย่างพวกผมเรียนกันมาแบบนี้ ทั้งตอนเรียนในคณะหรือตอนสอบใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ

 

ตัวเขาเองก็เคยพูดอยู่หลาย ๆ ครั้ง แต่เขาก็รู้สึก ไม่ได้ผลอยู่หลายครั้งและเหมือนเป็นการกระทำที่อวดดีและใจร้าย

 

อย่างไรก็ตามถึงแม้จะไม่ได้เกิดมาด้วยความโชคดีมีคนที่ทำให้รู้สึกว่า ถ้ามีคนคนนี้อยู่ด้วยก็มีชีวิตไปต่อได้ ก็ไม่ได้แปลว่าสิ้นหวัง เพราะเราสามารถยืมพลังจากคอนเทนต์มาเป็นแรงใจในการใช้ชีวิตต่อได้ 

 

คอนเทนต์คือ..?

 

ต่อให้ เป็นคนที่ ตอนนี้ไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ หรือคนที่ แค่ทำงานกับใช้ชีวิตประจำวันไปวัน ๆ ก็เหนื่อยจะแย่แล้วไม่ว่างดูละครหรือกาตูนสนุก ๆ  หรอก

 

อยากให้ลองสละเวลาสัก 1 นาที อาจจะเจอคอนเทนต์ที่เปลี่ยนชีวิตของเราก็ได้

 

“แม้ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่อะไร แต่คุณอาจเจอกับสิ่งที่ทำให้รู้สึกผูกผันจนอยากอยู่กับมันไปตลอดก็ได้”

 

การที่เรารับรู้ตัวเราเองว่าเราพอใจกับอะไร ไม่พอใจกับอะไร สามารถทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น และขอให้คุณผู้อ่านทุกคนได้หาคอนเทนต์ที่เราชอบเจอกันนะคะ

 

สุดท้ายแล้วชีวิตเราไม่ได้ยืนยาวพอที่จะอยู่อย่างอดทน .. 🙂