ความรู้สึก ไม่มั่นใจตัวเองในที่ทำงาน ไม่กล้าตัดสินใจในการทำงาน ทำให้เรารู้สึกแย่กับตัวเอง เวลามองดูคนอื่นที่เขามีความมั่นใจกล้าตัดสินใจยิ่งทำให้เราด้อยค่าประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเองทุกที
หรือว่าเรายังดีไม่พอนะ? ไม่กล้าที่จะตัดสินใจจริง ๆ จัง ๆ แบบนี้เราควรทำอย่างไรให้กลายเป็นคนกล้าตัดสินใจ
ความรู้สึกไม่มั่นใจตัวเองในที่ทำงานทั้งที่จริงแล้ว เราอาจจะเก่งกว่าที่เราคิด เกิดจากอะไรได้บ้าง . .
“Low-self esteem”
Low-self esteem จนทำให้เกิดความไม่มั่นใจในตนเองในหลาย ๆ ด้าน คิดว่าตัวเองไม่เก่ง เก่งไม่พอไม่มีความมั่นใจในการทำงานเลย ไม่กล้าทำอะไรจนไม่กล้าที่จะให้ตัวเราเองต้องมีความเสี่ยง
ในการทำงาน ไม่กล้าเสนอไอเดียใหม่ ๆ เพราะกลัวว่ามันยังดีไม่พอ หรือไม่มั่นใจที่จะพูดออกไป ไม่กล้าออกจาก comfort zone ของตัวเอง เพราะการก้าวไปมากกว่านี้ มันเกินความมั่นใจของเราเองไปแล้ว
“กลัวความผิดพลาดจนไม่กล้าทำอะไร”
ถ้าไม่กล้าทำอะไรก็จะไม่ได้มีความก้าวหน้าอะไรเลย กลัวผิดพลาดจนไม่กล้าลองทำอะไรใหม่ ๆ ไม่กล้าออกมาจาก comfort zone คนที่มีความกังวล ความกลัวว่าจะทำอะไรผิดพลาด
Atelophobia?
Atelophobia คือโรคกังวลอย่างหนึ่ง คนที่เป็นมักกังวลว่าจะทำอะไรผิดพลาด กลัวที่จะทำอะไรพลาดไป ทำได้ไม่ดีพอ กลัวความล้มเหลวและมักทำให้ตัวเองไม่กล้าที่จะทำอะไรในชีวิต
คนที่มีภาวะนี้มักจะคิดถึงความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จนบางครั้งทำให้ไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไรเลย
ความไม่มั่นใจตัวเองเริ่มต้นมาจากอะไร?
หลัก ๆ เลยมาจากการเลี้ยงดูของครอบครัวในวัยเด็ก จากทฤษฎีบุคลิกภาพของอีริคสัน ที่มีพัฒนาการตามลำดับช่วงวัยทั้งหมด 8 ขึ้น ซึ่งการที่คนคนนึงเติบโตขึ้นมาจะมีความมั่นใจหรือไม่มีความมั่นใจจะอยู่ใน 3 ขั้นแรก
ขั้นที่ 1 ความไว้วางใจหรือความไม่ไว้วางใจ (Trust VS Mistrust)
ในช่วงปีแรกของชีวิต ถ้าเด็กได้รับความรักความอบอุ่น ความเอาใจใส่จากพ่อแม่ เด็กจะพัฒนาความรู้สึกไว้วางใจคนอื่น แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าเด็กไม่ได้รับในสิ่งที่เขาต้องการ เด็กจะเกิดความสงสัย ความกลัว
และความไม่ไว้วางใจคนอื่น เด็กจะเริ่มมีความกลัวตั้งแต่ขั้นนี้เลย
ขั้นที่ 2 ความเป็นตัวของตัวเองหรือความสงสัย (Autonomy VS Doubt & Shame)
ในช่วงขวบปีที่ 2 ถ้าเด็กได้มีโอกาสสำรวจและลงมือตามความอยากรู้อยากเห็น ความสามารถของตัวเอง เด็กก็จะพัฒนาความเป็นตัวของตัวเอง รู้จักควบคุมตนเอง แต่ถ้าเด็กถูกขัดขวางหรือไม่มีโอกาส
เขาจะเกิดความไม่กล้าทำสิ่งใด เกิดความสงสัยในความสามารถของตัวเอง เกิดความคิดว่าตัวเองไม่มีความสามารถ
ขั้นที่ 3 ความคิดริเริ่ม หรือความสำนึกผิด (Initiative VS Guilt)
ในช่วง 3-5 ขวบ ถ้ามีการกระตุ้นให้เด็กได้แสดงความสามารถอย่างมีเป้าหมาย และทิศทางที่แน่นอน เด็กก็จะพัฒนาการมีความคิดริเริ่ม แต่ถ้าเด็กถูกตำหนิ ถูกห้ามก็จะรู้สึกผิดหวัง
รู้สึกกลัวว่าตัวเองจะทำอะไรผิด ๆ ลงไป ไม่กล้าตัดสินใจ
สามขั้นแรกนี้จะส่งผลต่อเด็กให้เติบโตมามีบุคลิกภาพยังไงบ้าง การมีความมั่นใจหรือไม่มั่นใจ มีความกลัวหรือความกล้า ก็อยู่ที่พิ้นฐานการเลี้ยงดูของครอบครัว
ไม่มั่นใจตัวเองในที่ทำงาน ทำอย่างไร?
1. เชื่อในตัวเอง
ต้องมีความเชื่อมั่นและยอมรับในความสามารถของตัวเอง ให้เชื่อเสมอว่าเราสามารถทำได้ ฝึกความมั่นใจให้ตัวเอง
2. คิดบวก (Positive Thinking)
ปรับทัศนคติของตัวเอง ลองคิดว่าเราเองก็มีความสามารถ เราเองก็มีความเก่งในแบบของเราเองและให้มองความผิดพลาดเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราได้เกิดการเรียนรู้ เราต้องกล้าลองทำอะไรใหม่ ๆ ดูบ้าง
3. เพิ่มทักษะสร้างความมั่นใจ (Self -Confidence)
ลองค้นหาสิ่งที่ตัวเองถนัด สิ่งที่ทำแล้วมีความสุข ลองใช้ช่วงนั้นเวลาอยู่กับตัวเอง จะช่วยให้รู้สึกว่าตัวเราก็มีความสามารถมีสิ่งดี ๆ ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร หรืออาจจะไปลงเรียนหรือศึกษาสิ่งใหม่ ๆ เพิ่มเติมเพื่อเป็นการอัพสกิลตัวเอง
4. ตั้งเป้าหมายให้ตัวเอง
ลองตั้งเป้าหมายให้กับตัวเอง และเตือนตัวเองว่าจะต้องไปถึงเป้าหมายของเราให้ได้
ผลกระทบของการ ไม่มั่นใจตัวเองในที่ทำงาน
1. ติดอยู่แต่ใน Comfort Zone
ไม่กล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ทำให้ไม่กล้าทำสิ่งใหม่ ๆ ที่ท้าทาย ไม่เกิดการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง และอาจจะทำให้พลาดโอกาสในการเติบโตด้านการงาน
2. ขาดโอกาสในการเติบโต
เมื่อขาดความมั่นใจและยึดติดอยู่กับ Comfort Zone จะทำให้ขาดโอกาสในการเติบโตด้านหน้าที่การงาน
คนทุกคนมีจุดเด่นของตัวเองในรูปแบบที่แตกต่างกันไป อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครเพราะจะทำให้เสียความมั่นใจได้ ถ้าเราอยากพัฒนาตัวเองอยากมีความก้าวหน้าในการทำงาน
เราก็ต้องสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง เราต้องมีความมั่นใจว่าเราทำได้ ให้ลองทำดูก่อนเราอาจจะทำได้ดีกว่าที่คิดก็ได้และเราทุกคนก็มีความเก่งในตัวเอง
“No Body Perfect ทุกคนต่างมีจุดเด่นจุดด้อยในตัวเอง”
Post Views: 3,100