ศิลปะอยู่ร่วมกับคนเฮงซวย

ศิลปะการอยู่ร่วมกับ คนเฮงซวย

เรื่องAdminAlljitblog

คุณผู้ฟังต้องเคยเจอ คนเฮงซวย ในชีวิต

 

บทความนี้ Alljit ร่วมกับ อ่านแล้ว อ่านเล่า (ธนานนท์ โดมทอง)

 

จะพาคุณท่องเข้าไปในโลกของหนังสือ พร้อม ๆ กับท่องเข้าไปในจิตใจของตัวคุณ เมื่อเราเจอคนเฮงซวย เราควรทำอย่างไร

 

หนังสือที่มีชื่อว่า ศิลปะการอยู่ร่วมกับคนเฮงซวย จะสามารถเป็นคู่มือให้กับทุก ๆ คน และสามารถที่จะอยู่ร่วมกับคนเหล่านี้ได้

หนังสือ ศิลปะการอยู่ร่วมกับ คนเฮงซวย

หนังสือเล่มนี้เขียนโดยศาสตราจารย์ โรเบิร์ต I zax ท่านเป็นอาจารย์ ประจำมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด อาจารย์มีประสบการณ์ในการรับมือกับคนเฮงซวยมากมายทั่วโลก

 

เพราะแฟนคลับของอาจารย์ได้มีการส่งอีเมล์เข้ามาถามปัญหา อาจารย์ก็ได้ให้คำปรึกษาเลยเป็นที่มาของหนังสือเล่มนี้

 

อย่างที่บอกไปว่าหนังสือเล่มนี้ เป็นเหมือนกับคู่มือในการรับมือกับคนเฮงซวย ก็จะรวบรวมกรณีศึกษามากมาย ให้ไปเลือกใช้กันรวมไปถึงงานวิจัยเป็น Backup ด้วย

ตั้งคำถามก่อนว่า เราหรือเขาใครกันแน่ที่ คนเฮงซวย

วิธีการง่าย ๆ ก็คือให้เราลองคุยกับคนรอบ ๆ ข้างของเราดูว่า คนที่เราคิดว่าเป็นคนเฮงซวย นอกจากเขาทำกับเราแบบนี้แล้วเขาทำกับคนอื่นด้วยหรือเปล่า ถ้าเกิดบุคคลที่เราคุยด้วยเขาโดนกระทำแบบเรา

 

คงแปลว่าใช่แล้วคนที่เราคิดคือคนเฮงซวยจริง ๆ ถ้าเกิดไม่ใช่ถ้าเราเป็นเหยื่อคนเดียวของเขาอันนี้จะต้องนึกดูดี ๆ ว่าอะไรที่เป็นสาเหตุเพราะว่าถ้าเกิดว่ามีแค่เราคนเดียวบางทีตัวเราอาจจะเป็นคนเฮงซวยด้วยหรือเปล่า

ประเมินระดับของ คนเฮงซวย

ตอนที่เรากำลังจะประเมิน อย่าประเมินตอนที่เรากำลังโกรธ ให้เราแบ่งระดับออกว่าเขาเป็นคนเฮงซวยแบบชั่วคราว หรือ แบบถาวร 

คนเฮงซวยแบบชั่วคราว 

ปกติแล้วเขาอาจจะเป็นคนดีที่ประพฤติดี แต่ว่าอาจจะมีบางพฤติกรรมที่หลุดทำสิ่งแย่ ๆ มาเป็นครั้ง อาจจะเป็นพฤติกรรมที่แย่ในรอบปีซึ่งสิ่งที่แสดงออกเพราะเขาอารมณ์ไม่ดีอยู่

 

หรือว่ามีปัญหาที่บ้านมาถ้าเราเจอคนเฮงซวยที่เป็นแบบชั่วคราว ต้องให้ความคิดเห็นใจกับเขา วิธีการที่ดีที่สุดก็คือไม่ต้องไปพูดอะไร ถ้าเขาใจเย็นลงเขาก็จะกลับมาเป็นปกติเอง

คนเฮงซวยแบบถาวร

เป็นพฤติกรรมแบบนี้มาตลอดเลยตั้งแต่วันแรกที่รู้จัก แย่เสมอต้นเสมอปลาย ทำดีกับเราแค่ 1 วันแต่อีก 30 วันเขาทำพฤติกรรมแย่หมดเลย 

4 วิธีในการรับมือ

1.การหนี

เป็นวิธีการที่ดีที่สุดเลย ความเฮงซวยเป็นนิสัยที่ติดต่อกันได้ ถ้าเราอยู่กับคนเฮงซวยนาน ๆ เราอาจจะติดมาและส่งต่อนิสัยนี้ให้คนอื่นได้ เช่น ถ้าเราไปสัมภาษณ์งานแล้วรู้สึกว่าหัวหน้าเราไม่โอเค

 

เราก็อาจจะไม่เลือกงานนั้นเพราะไม่อย่างนั้นเราอาจจะมานั่งลำบากใจ ทุกข์ใจทีหลัง ที่สำคัญเลยการหนีต้องหนีออกมาสวย ๆ อย่าหนีออกมา

 

โดยไร้ความรับผิดชอบ เพราะโลกตอนนี้แคบกว่าที่เราคิดในอนาคตเราอาจจะเจอคนเหล่านี้อีกครั้งก็ได้ 

2.หลีกเลี่ยง

ถ้าเกิดว่าเราไม่สามารถหนีได้เพราะคนเหล่านี้เป็นคนในครอบครัว อาจารย์ หัวหน้า เราทำการเว้นระยะห่างแทนการหนี ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาให้มากที่สุด

 

เช่น นั่งห่าง ๆ ปลีกตัวให้ห่างจากเขา หลีกเลี่ยงโดยการชะลอจังหวะ

 

เวลาที่เราเจอคนเฮงซวยแล้วเราโมโห ยิ่งเราแสดงอาการโมโหเขาจะยิ่งพอใจ เราต้องแก้ด้วยการปล่อยเขาไป อย่าไปโต้เถียง ยิ่งโต้เถียงเขายิ่งพอใจ ยิ่งเขาพอใจจะยิ่งทำแบบนี้มากยิ่งขึ้น

3.ปรับมุมมองตัวเรา

การที่เราจะไปปรับเขาจะยาก ปรับที่ตัวเราโดยการที่ไม่ไปใส่ใจที่ตัวพวกเขามาก ไม่ต้องไปใส่ในสนใจในพฤติกรรมแย่ ๆ ที่พวกเขาทำออกมา เพราะนิสัยของพวกเขาบางคนอาจจะแก้ไม่ได้

4.การตอบโต้

การตอบโต้เป็นวิธีการที่ไม่แนะนำเพราะอาจจะไปสร้างวรจรให้กลายเป็นความโกรธแค้นกันไปมา

 

แทนการจบเรื่องราวถ้าเราอยากตอบโต้แล้วพวกเขาเป็นคนที่มีอำนาจมากกว่าเรา เราต้องมีข้อมูลหลักฐาน

 

ไปขอความร่วมมือจากคนอื่นมาช่วยด้วย ต้องอาศัยการวางแผนที่ดี 

 

สุดท้ายแล้ว ถึงเราจะหนีคนเฮงซวยได้ แต่เราก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขอะไรได้เลยจากพฤติกรรมของพวกเขา

 

เพราะการที่จะแก้นิสัยพวกเขาเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ และอย่าลืมที่จะตั้งคำถามกับตัวเองว่า

 

“ตัวเรานั้นเป็นคนที่มีนิสัยเฮงซวยสำหรับคนอื่นด้วยหรือเปล่า”