คนโสด

อย่ากดดัน ‘ คนโสด ‘ เพราะคนโสดก็มีความสุข

เรื่องAdminAlljitblog

เคยเจอคำพูดลักษณะแนวนี้กันไหม.. เมื่อไหร่จะขายออก? เมื่อไหร่จะมีแฟน? โตไปต้องแต่งงานมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบนะ เพราะมาตรฐานสังคมที่ทำให้ คนโสด รู้สึกตัวเองแปลก รู้สึกแย่กับสถานะโสด

 

คิดเหมือนกันไหมว่าเป็นปัญหาเหมือนกัน เวลาที่เราไม่มีความสุขกับสถานะที่เป็นอยู่ ไม่ว่าจะโสดหรือมีแฟน ซึ่งผลกระทบที่ตามมาและวิธีการรับมือจะแตกต่างกัน  แต่การเป็นโสดก็ทำให้มีความสุขเหมือนกันนะ 🙂 

 

ไม่พอใจกับความโสดเลย (เกือบ) กระโดดไปในความสัมพันธ์ที่แย่ ๆ

บางทีตัวเราเองก็ไม่รู้หรอกว่าเรากำลังไม่พอใจกับความโสดอยู่หรือเปล่า แต่การกระทำคือพยายามหาคนคุย พอเจอคนที่นิสัยพอถูกคอกับเราได้จะเริ่มพัฒนาไปไกล

 

โดยที่ยังไม่ได้ดูเงื่อนไขให้รอบคอบเลยว่า เข้ากันได้แค่ไหน ชีวิตไปกันได้ไหม จะเริ่มเป็นปัญหาตรงที่เราเอาตัวเองออกมายากเพราะรู้สึกกับคนนั้นไปแล้ว กว่าจะหลุดจากวงจรการพยายามหาใครเข้ามาเติมเต็มนั้นยากมาก

 

ถ้าหากว่าเราโชคดีที่รู้ตัวก่อนที่จะเจอใครเข้ามาทำร้าย อาจจะออกมาทันก่อนที่เราจะกระโดดลงไปในความสัมพันธ์แย่ ๆ

 

รับมือกับคำถาม ‘ทำไมไม่มีแฟนสักที?’

พอเราเริ่มโตขึ้นเรื่อย ๆ วัยมหาลัย วัยเริ่มทำงาน คำถามที่มักจะโดนถามตอนเจอผู้ใหญ่ก็คือ ‘ทำไมไม่มีแฟนสักที’ , ‘เมื่อไหร่จะมีแฟน’ ซึ่งตอนที่โดนถามแรก ๆ ก็ไม่รู้สึกอะไรแต่พอโดนถามบ่อยครั้ง

 

ก็เริ่มไม่รู้จะตอบตอบยังไงหรือบางทีก็ทำให้เราไม่อยากเจอกับญาติ ๆ เลยเพราะไม่อยากตอบคำถามเหล่านี้ เข้าใจว่าการถามด้วยคำถามนี้คือความหวังดีจากญาติพี่น้อง ที่อยากให้เรามีคนดูแล

 

แต่การที่เราถูกกดดันมาก ๆ จากคำถามเหล่านี้ก็ทำให้รู้สึกอึดอัดเหมือนกัน ซึ่งสามารถตอบได้นะว่าเรายังไม่พร้อมมีแฟน เรามีความสุขกับชีวิตแบบนี้ คือคนเป็นผู้ใหญ่เขาไม่เข้าใจหรอก

 

เพราะเขาเติบโตมากับการที่มีพ่อแม่ลูก อยู่กับแบบญาติพี่น้อง แต่ตอนนี้สภาพสังคมได้เปลี่ยนไปแล้ว เราสามารถมีความสุขได้จริง ๆ จากการอยู่คนเดียว กับเพื่อน กับสัตว์เลี้ยง ต้นไม้ สิ่งที่เรารักต่าง ๆ

 

และโมเม้นท์พลังของเพื่อน ๆ บางทีคุยกับเพื่อนก็คุยแบบฟีลแฟน เช่น  ถึงบ้านแล้วบอกด้วย กินไรดี ส่งรูปทุกอริยาบถต่าง ๆ ทำให้บางทีรู้สึกว่าเราจำไม่เป็นต้องมีแฟนก็ได้เพราะเพื่อนเราเป็นทุกอย่างให้เราแล้ว 

 

แผลในวัยเด็ก ทำให้กลัวความรัก

บางคนไขว่คว้าหาความรักเพราะตอนเด็กไม่ได้รับความรัก

บางคนกลัวความรักเพราะเจอพ่อแม่ทะเลาะกันในวัยเด็ก

บางคนรู้สึกไม่มั่นคงในความรัก รัก ๆ เลิก ๆ กับแฟนบ่อย ๆ เพราะขาดความมั่นใจ กลัวตัวเองไม่ดีพอเพราะไม่เคยได้รับคำชื่นชมจากครอบครัว

 

ในทางจิตวิทยาจะเข้าทฤษฎี Attachment Styles สิ่งนี้จะมีผลในการสร้างความสัมพันธ์ แบ่งออกกว้าง ๆ ได้เป็นสองแบบคือ Secure และ Insecure attachment 

 

Secure คือ เรารู้สึกมั่นคง รู้สึกว่าความสัมพันธ์นี้ปลอดภัย 

 

insecure คือเราจะรู้สึกไม่มั่นคง คนนั้นคนนี้ไว้ใจได้หรือเปล่า จะเข้ามาหลอก เข้ามาทำร้าย หรือเปล่า การพบว่าตัวเองมี mindset แบบนี้เรียกได้ว่ากลัวที่จะมีความรัก

 

ไม่เคยมีแฟนแล้ว โสดมาตลอด บางคนมองว่ามีปัญหา รับมือยังไง?

ถ้าเรามั่นใจและรู้จุดยืนของตัวเองว่า เรามีความสุขกับการเป็นโสด เพราะรู้สึกอิสระ หรือด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม คำพูดของคนอื่นจะไม่มีผล แต่ไม่ได้หมายความว่า การอยากมีแฟน เป็นเรื่องที่ผิด

 

บางคนอาจพร้อมแล้วที่จะเริ่มความสัมพันธ์กับใครสักคน อยากมีคนให้คอยคิดถึงและห่วงใยกัน เลยอยากมีแฟน ไม่ว่าจะโสดหรือมีแฟน คนอื่นอาจจะพูดไปในทางที่ไม่ดีได้ทั้งนั้น

 

ภาพรวมส่วนใหญ่ที่คนมองว่าเป็นปัญหาคือคนอื่นมากกว่าไม่ใช่ตัวเรา อย่างหวังดีต่าง ๆ ที่อยากให้เรามีความสุข แก่ไปอยากให้มีคนดูแล เลยอาจกดดันให้รีบมีแฟนเพื่อลบคำครหาเหล่านั้น

 

อยากให้ลองตั้งคำถามกับตัวเองว่าสาเหตุที่แท้จริงที่เราเป็นแบบนี้มาจากอะไรเราจะได้แก้ให้ถูกทางไม่งั้นเราก็พร้อมจะกระโดดไปพร้อมกับความสัมพันธ์แย่ ๆ ได้ 

 

ผลกระทบของการมีแฟนโดยไม่พร้อม มีอะไรบ้าง?

ปัญหาสุขภาพจิต

ถ้าทางจิตวิทยา แน่นอนว่าต้องเป็น ‘ปัญหาสุขภาพจิต’ การอยู่ในความสัมพันธ์ที่ toxic ทำร้ายกันด้วยคำพูด ความรุนแรง ส่งผลกระทบได้ในระยะยาว 

ปัญหาสุขภาพกาย

อันนี้ถ้าโดยตรงเลยจะเป็นในกรณีที่โดนทำร้ายร่างกาย บางทีปัญหาสุขภาพจิตอาจจะส่งผลต่อสุขภาพกายได้ด้วย เครียดลงกระเพาะ เครียดนอนไม่หลับ เป็นต้น

 

self-partnered ฉันไม่ได้โสดแต่ฉันมีคนที่ชอบแล้วก็คือตัวฉันเอง

การจะมี self-partnered หรือการรักตัวเอง ไม่ใช่ว่าจะมีได้เลยต้องผ่านการฝึกฝน รู้จักตัวเอง เมตตาต่อตัวเอง รับรู้คุณค่าของตัวเอง ซึ่งสิ่งนี้ไม่ได้ดีแค่กับเราคนเดียวแต่ถ้ารับรู้คุณค่าและรักตัวเองจะส่งผลต่อคนอื่นด้วย

 

อย่าลืมว่าการรักตัวเองไม่จำเป็นต้องกดดัน ไม่งั้นจะกลายเป็นว่า เรารู้สึกแย่ที่วันนี้เรายังรักตัวเองไม่ได้ ตามหลักจิตวิทยา ถ้าเรา ‘รักอย่างไม่มีเงื่อนไข’ ได้จะดีที่สุดไม่ว่าตัวเราจะผิดพลาด

 

ตัวเราจะน่าเบื่อ น่าผิดหวัง สักเท่าไหร่ แต่เรายังรักที่เราเป็นแบบนั้นได้ แต่การทำแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องให้เวลาตัวเองเยอะ ๆ 

 

 

โสด เหงา ทำอย่างไรดี?

ช่วงปลายปีที่แล้วได้มีโอกาสอ่านหนังสือเพื่อทำความเข้าใจความเหงา 2 เล่ม คือ เหตุเกิดจากความเหงา และ emotional first aid ความเหงาเกิดขึ้นเวลาที่คนในชีวิตไม่ตอบโจทย์สิ่งที่เราต้องการ

 

เพราะฉะนั้นการมีเพื่อน 10 20 คน ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เหงา ถ้าสิ่งที่เราต้องการคือ แฟน หรืออาจจะเป็นแค่ เพื่อนสนิท 1 คนที่ไว้ใจได้ พูดคุยกันทุกเรื่อง

 

อย่าปล่อยให้ตัวเองตกลงไปในวงจรของความเหงา เพราะจะออกมายากมาก กาย วินช์ บอกว่า ถ้าเรา ‘เหงา’ เราจะ ‘หวาดระแวง’ ว่าคนที่เข้ามาจะน่าไว้ใจไหม จะโอเคหรือเปล่า พอหวาดระแวงเลยไม่กล้าพาตัวเองไปรู้จักหรือสนิทกับใคร เลยเหงาวนลูปไปแบบนี้เรื่อย ๆ 

 

อยากแชร์ทริกดี ๆ ที่สรุปได้และสามารถนำไปปรับใช้กันได้ 😀

หากิจกรรมทำ : สำคัญมาก เพราะกิจกรรมเป็นตัวเปิดประตูสู่ความสัมพันธ์ใหม่ ๆ แต่อย่ามุ่งมั่นจะต้องเข้าไปรู้จักใครมากไป เพราะจะดูไม่เป็นธรรมชาติ ลองปล่อย ๆ จอย ๆ ตั้งใจทำกิจกรรม แล้วถ้ามีโอกาสพูดคุยกับใครถือว่าเป็นกำไร 

 

appreciate คนรอบข้างที่มีอยู่ : มองไปรอบตัวว่ามีใครที่รักและคอยอยู่เคียงข้างเราเสมอ เอาพลังงานไปทุ่มกับเขา รักและดูแลเขาให้ดี 

 

ฟื้นฟูมิตรภาพเก่า สร้างมิตรภาพใหม่ : ลองถามตัวเองดูว่ามีใครที่เราหลงลืมไปไหม ไม่สายที่จะกลับไปพูดคุยกัน หรือ ถ้าคนที่มีอยู่ไม่ตอบโจทย์ อาจจะลองเปิดใจ พาตัวเองไปรู้จักคนใหม่ ๆ ดู 

 

อย่างน้อย ๆ การอยู่อย่างเหงา ๆ คงดีกว่าการอยู่แบบ หวาดระแวง  ทะเลาะกันทุกวันจนทำร้ายวันดี ๆ…

 

 

เปิดใจอย่างไรดีถ้าตอนนี้เริ่มพร้อมจะมีใครสักคน

วิธีเปิดใจที่คือต้องถามตัวเองก่อนเลยว่าเราพร้อมไหม เพราะการมีความรักมักควบคู่มากับความรู้สึกหลายอย่าง มีความสุข ดีใจ เสียใจ เศร้าผิดหวัง เราพร้อมไหม เราอยากมีจริงไหมไม่ใช่เพราะสังคมกดดันไว้ว่าต้องมี

 

พอเรารู้สึกว่าเราพร้อมแล้วแล้วมีคนเข้ามาแน่นอนว่าทุกคนต้องมีไทป์ มีสเปค เป็นลิสต์ที่ตั้งไว้ เราเริ่มชอบเขานะ เขามีสเปค 7 ใน 10 ข้อที่เราตั้ง แล้วเราก็เทเขาอันนี้ก็ไม่ผิดเรามีสิทธที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง

 

แต่อยากบอกทุกคนว่าโลกนี้ไม่มีใคร perfect เราเองก็เหมือนกัน ถ้าหากสิ่งที่เขาไม่มีใน 3 อย่างเป็นสิ่งที่เราคิดว่าเราสามารถรับได้เราลองเปิดใจก็ได้นะ

 

 

สำหรับคนที่อยากเริ่มความสัมพันธ์ คนนี้ควรเคาะยังจะรู้ได้ยังไง?

เราต้องรู้ตัวเองว่าเราชอบคนแบบไหน เช่น ไม่ชอบความสัมพันธ์ที่เริ่มมาจากแอปเดท การคุยกับคนแปลกหน้าที่รู้จักผ่านความชอบ สิ่งต่าง ๆ ในแอปเดทที่ใส่ไปคือไม่ใช่ทาง

 

ชอบสายที่ได้รู้จักใช้ช่วงเวลา ทำให้รู้นิสัยใจคอกัน ทำให้รู้ว่าไม่สามารถหาแฟนจากแอปเดทได้ เราเลยจะเคาะได้และตั้งขอบเขตกับตัวเองได้ 

 

และสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าใช่เลยเป็นปักเจกบุคคลมาก ๆ เพราะคนที่ใช่ไม่เหมือนกัน ถ้าให้มาถามรายคนเลยว่าสำหรับเธอ เธอว่าคนที่ใช่เป็บแบบไหน? แต่ละคนคงตอบไม่เหมือนกันแน่ ๆ

 

แต่สิ่งที่สำคัญเลยคือเมื่อความสัมพันธ์ได้เกิดขึ้นแล้ว ระยะเวลาที่พูดคุยกันคือคำตอบ และสิ่งที่อยากบอกคือคนที่เข้ากันดีกับเราได้ในตอนนี้สักวันถ้าเราเข้ากันไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก อย่าฝืนจนทำร้ายตัวเองไม่งั้นจะกลายเป็นความสัมพันธ์ที่แย่ ๆ ก็ได้