Move on ไม่ได้ เขาไม่ปล่อยหรือเราเองที่ไม่ไป

เรื่องAdminAlljitblog

Move on ไม่ได้ ” เพราะเขาไม่ปล่อยหรือเราไม่ไป? จริง ๆ แล้ว การที่เรา Move On ไม่ได้ เป็นเพราะเขาหรือเพราะตัวเราเอง? ถ้าหาก Move On ไม่ได้เราจะรับมืออย่างไรดี?

 

 

Move on ไม่ได้ เป็นเพราะเราหรือเพราะเขา?

สารบัญ

เขาไม่ปล่อยหรือเราไม่ไป?

ในเรื่องความรัก คิดว่าเป็นคำถามที่ดีสำหรับเอาไว้ถามตัวเอง เพราะหลาย ๆ ครั้ง การมูฟออนไม่ได้ ไม่ใช่เพราะเขา แต่เป็นเพราะเราที่ยังคงหลอกตัวเองอยู่ 

 

แต่จริง ๆ แล้ว ถึงเขาไม่ปล่อย เราก็ไปได้ เพียงแต่อาจจะยากขึ้นหน่อย อย่าลืมว่าการตัดสินใจเป็นของเรา เรามีสิทธิ์เท่ากับเขาในการเลือกว่าจะอยู่หรือไป 

 

 

ไปข้างหน้า 1 ก้าว ถอยหลัง 3 ก้าว?

1 step forward 3 steps back จริง ๆ ประโยคนี้เป็นชื่อเพลงของ Olivia Rodrigo แต่จาก Cambridge Dictionary จะใช้ 1 step forward 2 steps back เพื่ออธิบายเกี่ยวกับการ Move on

 

เราเดินไปข้างหน้าแต่มีสถานการณ์บางอย่างมาทำให้เราถอยหลังไปมากกว่าจากจุดที่อยู่ตอนแรก เช่น บางคนเลิกกับแฟน แต่พอเห็นของที่แฟนเคยซื้อให้ ความคิดถึง เลยหวนกลับมาอีก

 

ตรงข้ามกับการ Move on ได้ ที่หมายถึง การทำใจยอมรับสิ่งนั้นได้แล้ว พร้อมที่จะเดินหน้าต่อไปอย่างไม่ลังเลแล้ว หรือ ในเรื่องความรัก Move on คือการตัดใจจากแฟนเก่าได้แล้วนั่นเอง

 

 

Move on ไม่ได้ มีรูปแบบไหนบ้าง?

1. ความรัก

เราชอบเขาเขาไม่ชอบเรา เลิกทั้งที่ยังรัก 

2. ความผิดหวัง

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องการใช้ชีวิต ทำให้เกิดการเปรียบเทียบ

3. คำพูดและสายตาคนอื่น 

แคร์คนรอบข้างมากเกินไป โดนต่อว่า ผ่านไปหลายวันยังนึกถึง

 

 

Move on ไม่ได้ ส่งผลเสียอย่างไร?

1. สร้างความรู้สึกและอารมณ์ทางลบ

เช่น การเอาอดีตมาตอกย้ำตัวเอง 

2. พัฒนาไปเป็นความผิดปกติทางอารมณ์

เช่น ซึมเศร้า ไบโพลาร์ วิตกกังวล

3. ขาด self-esteem และ self-confidence

เช่น โทษตัวเอง เพราะเราไม่มีคุณค่าพอ เขาเลยบอกเลิก ทำให้เราไม่มีความมั่นใจที่จะเริ่มต้นใหม่ 

 

 

Move on ไม่ได้ เพราะอะไร?

Move on จากความรักไม่ได้ :

เหตุผลเกี่ยวกับจิตใจ

1. การไม่ยอมรับความจริง หลอกตัวเอง

2. การที่อีกฝ่ายไม่ยอมปล่อย

3. ความคุ้นเคยกับสิ่งเดิม ๆ

4. ความติดค้างภายในใจ

5. ความกลัวการสูญเสีย

 

เหตุผลเกี่ยวกับกายภาพ

1. สมองตอบสนองต่อการเลิกราเหมือนเวลาบาดเจ็บทางกาย

2. สมองยังจดจำว่าเรายังมีแฟนอยู่เหมือนเดิม

3. สายสัมพันธ์ทางสังคมยึดเราและเขาไว้

4. ความทรงจำทางอารมณ์ขังเราไว้

5. กลัวการถูกปฏิเสธ ไม่กล้าเริ่มต้น

6. ยิ่งคาดหวังและลงทุนมากยิ่งยาก

7. เพราะใช้เวลาทำใจยังไม่นานพอ

Move on จากคำพูดและสายตาคนอื่นไม่ได้ :

1. เกิดปรากฏการณ์ Imaginary audience รู้สึกว่าคนอื่นสนใจเราอยู่ตลอด

2. แคร์คำพูดและสายตาของคนอื่นมากจนเกินไป โดยลืมไปว่าทุกคนต่างสนใจแต่ตัวเอง

 

 

5 Stages of Grief คืออะไร?

Elisabeth Kubler Ross  ได้แบ่งระยะของความรู้สึกเสียใจที่เกิดขึ้นกับคนที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก สิ่งที่รัก หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยง เป็น 5 ขั้นด้วยกัน 

ขั้นที่ 1 : การปฏิเสธ (Denial)

มีหลากหลายความรู้สึกเกิดขึ้น รู้สึกสับสน รู้สึกว่าชีวิตไม่มีความหมาย ยังคงไม่ยอมรับเพราะตกใจถึงขีดสุดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่สามารถทำใจได้

ขั้นที่ 2 : ความโกรธ (Anger)

จะมีความรู้สึกโกรธ แต่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ถ้าปลดปล่อยออกไปโดยไม่ปิดกั้นไว้ จะช่วยให้ได้ระบายความเจ็บปวดออกไป ความรู้สึกเบาลง

ขั้นที่ 3 : การต่อรอง (Bargaining)

จะมีความรู้สึกว่า อยากจะยอมทุกอย่างเพื่อให้ความสัมพันธ์กลับมาเป็นดังเดิม มีแต่คำว่า “ถ้าเพียงเเต่…” อยู่เสมอ อยากย้อนเวลากลับไปได้

 ขั้นที่ 4 : เศร้า (Depression)

จะมีความรู้สึกว่า ความทุกข์นี้จะอยู่ไปตลอดกาล รวมถึงจะสูญเสียการควบคุมทั้งอารมณ์และร่างกายของตนเอง ไม่สามารถควบคุมความเศร้าได้

ขั้นที่ 5 : ยอมรับ (Acceptance)

เป็นระยะที่ยอมรับได้แล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความจริง จะไม่มีความโกรธและความเศร้าเหมือนที่ผ่านมา มีการหันมาดูแลตัวเองและสนใจความต้องการตัวเองมากขึ้น

 

 

Move on ไม่ได้ รับมืออย่างไรดี?

 การให้เวลาตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ เพราะทุกเรื่อง… การจะก้าวผ่านความรู้สึกแย่ ๆ ไปได้ต้องใช้เวลาทั้งนั้น

Move on จากแฟนเก่า :

1. ยอมรับความจริง

อยู่กับตัวเอง ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น

2. ทำสิ่งที่ดีต่อตัวเอง

ทำในสิ่งที่มีความรัก ทำสิ่งใหม่ ๆ

 3. เลิกส่องโซเชียลมีเดีย

เพราะถ้าแอบดูชีวิตเขา ยิ่งตัดใจยาก

4. เชื่อมั่นในตัวเองให้มากขึ้น

กลับมารักและดูแลตัวเอง เพื่อสร้างความเชื่อมั่น พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่

5. เริ่มต้นสร้างความสัมพันธ์ แฟนที่ดีคือแฟนใหม่

ทำได้ แต่ต้องระมัดระวัง เพราะอาจจะเป็นการดึงตัวเองเข้าไปในความสัมพันธ์แย่ ๆ เสียใจมากกว่าเดิม

Move on จากคำพูดและสายตาคนอื่น :

1. เข้าใจตัวเอง

ว่าปรากฏการณ์ Imaginary audience เป็นเรื่องปกติ

2. เข้าใจความจริง

ว่าไม่มีใครสนใจเราขนาดนั้น เรายังสนใจแต่ตัวเองเลย

3. คัดเลือกคนในชีวิต

บางคนตั้งใจที่จะพูดไม่ดีกับเรา จะได้รู้ว่าใครรักและแคร์เรา ใครที่ไม่หวังดี อาจจะต้องปล่อยเขาไป

4. ทุกคนต่างทำผิดพลาด

จุดโฟกัสไม่ใช่ เราผิดพลาดอีกแล้ว เพราะบางทีมีปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้เข้ามากระทบ ลองเปลี่ยนไปคิดว่าแล้วจะทำยังไงต่อดี? ดีกว่า

 

 

จะรู้ได้อย่างไรว่าเรา Move On ได้แล้ว?

โดยทั่วไปมนุษย์จะใช้เวลาในการรักษาใจจากความผิดหวังเฉลี่ยอยู่ที่ 3 เดือน แต่ถ้าถูกกระตุ้นจากสิ่งต่าง ๆ รอบตัวให้นึกถึงความทรงจำแล้วยังเศร้ามาก ๆ แปลว่า ยัง Move on เป็นวงกลมอยู่ 

 

แต่ถ้ามั่นใจว่า Move on ได้แล้ว เมื่อโดนสิ่งเร้ากระตุ้นให้สังเกตตัวเองว่า ยังเสียใจเท่าเดิมไหม ถ้าใช่ ไม่ต้องคาดหวังว่าจะต้องกลับไปรู้สึกดีเหมือนเดิมหรือไม่รู้สึกอะไรแล้ว แค่ว่าเราดีขึ้นก็พอ

 

 

Move on ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่ากดดันและตอกย้ำตัวเอง 🙂

 

 

ที่มา :

หลักจิตวิทยากับการ Move on 

7 Reasons Why You Can’t Let Go of a Past Relationship

7 Ways It May Be Physically Hard To Move On After A Breakup, According to Experts