บุคลิกภาพ

Introvert Extrovert และ Ambivert เรามี บุคลิกภาพ แบบไหน?

เรื่องAdminAlljitblog

Introvert Extrovert และ Ambivert เรามี บุคลิกภาพ แบบไหนกันนะ ? ทำไม Introvert ถึงถูกนำมาพูดถึงอยู่บ่อย ๆ ?  แบบทดสอบบุคลิกภาพทั่ว ๆ ไป สามารถบอกความเป็นเราได้จริงหรือเปล่า ?

มาทำความรู้จักตัวเองกันเถอะ

สารบัญ

บุคลิกภาพ คืออะไร?

บุคลิกภาพ คือ ลักษณะหรือพฤติกรรมที่เฉพาะตัวในการใช้ชีวิต บุคลิกภาพจะมีหลายองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็น ลักษณะเด่น ความสนใจ ความสามารถ แรงจูงใจ คุณค่า ตัวตน

 

บุคลิกภาพ เป็นสิ่งที่คงทน คือ เราเป็นยังไงก็เป็นอย่างงั้น แต่ไม่ถาวร คือ สามารถเปลี่ยนได้ ถ้ามีเหตุปัจจัยอะไรกระทบ อยากยกตัวอย่างของนักเรียนแลกเปลี่ยน หลายคนอยู่เมืองไทยจะขี้อาย

 

แต่พอได้ไปเรียนต่างประเทศจะกล้าแสดงออก  ด้วยสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม รวมถึงการพยายามปรับตัว ทำให้บุคลิกภาพเปลี่ยนไปได้

 

 

การแบ่ง บุคลิกภาพ มีแบบไหนบ้าง?

Big Five 

จากเว็บไซต์ Berkeley well being ให้ข้อมูลว่า Big-five ตามชื่อ จะแบ่งบุคลิกภาพออกเป็น 5 แบบ

1.Neuroticism 

ถ้า High Neuroticism = จะเป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหวง่าย ส่วนใหญ่จะเป็นอารมณ์ลบ

2.Extraversion 

ถ้า High Extraversion = จะชอบเข้าสังคม สนใจคนรอบข้าง ชอบพูดคุย ชอบสังสรรค์กับกลุ่มคน

3.Openness 

ถ้า High Openness = จะสนุกกับการลองทำสิ่งต่าง ๆ เปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ได้ง่าย

4.Agreeableness 

ถ้า High = Agreeableness = จะคล้อยตามคนอื่น จะใจดี ใจกว้าง สุภาพกับคนรอบข้าง ไม่ค่อยแสดงความคิดเห็นของตัวเองสักเท่าไหร่ จะยึดคนอื่นเป็นหลัก

5.Conscientiousness 

ถ้า High Conscientiousness = จะเข้มงวด ให้ความสำคัญกับเรื่องความผิดถูก 

 

 

Myers-Briggs Type Indicator (MBTI) 

4 ตัวอักษรที่ทุกคนคุ้นเคย หลายคนน่าจะเคยทำแบบทดสอบของเว็บไซต์ 16 Personalities ที่เป็นรูปตัวการ์ตูนอาชีพต่าง ๆ ลักษณะเด่นจะแบ่งออกเป็นหมวด ๆ ได้แก่

 

  1. เก็บตัว (I=Introvertersion) หรือ ชอบเข้าสังคม (E=Extraversion)
  2. อยู่กับความจริง (S=Sensing) หรือ มีวิสัยทัศน์ (N=Intuition) 
  3. ใช้ความคิด (T=Thinking) หรือ ใช้ความรู้สึก (F=Feeling)
  4. มีระเบียบแบบแผน (J=Judging) หรือ ยืดหยุ่น (P=Perceiving)

 

แบบทดสอบบุคลิกภาพ บอกความเป็นตัวเราได้มากน้อยแค่ไหน?

คงตอบได้ว่า บอกได้เพียงส่วนหนึ่ง เพราะทุก Test มีข้อจำกัด จากเว็บไซต์ wellable ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ limitations ของ test ไว้

 

1.บุคลิกภาพมนุษย์มีความซับซ้อน 

 

ทำให้บาง Test ไม่ครอบคลุม เช่น Big-five ที่แบ่งคนเป็น 5 ประเภทใหญ่ ๆ แต่จริง ๆ ในคนหนึ่งคน อาจจะมีความเป็น 2 แบบ 3 แบบ ในตัวเอง เป็นไปได้หมดเลย 

 

2.บุคลิกภาพมนุษย์เปลี่ยนแปลงได้

 

อย่างที่บอกว่าบุคลิกภาพเป็นสิ่งที่คงทนแต่ไม่ถาวร คงทน คือ นิสัยจะอยู่แบบนั้นนาน แต่ไม่ถาวร คือ ถึงจุด ๆ หนึ่ง อาจจะมีใครสักคนหรือเหตุการณ์บางอย่างที่กระทบจนมีผลให้บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลงไปได้เหมือนกัน 

 

3.ผู้ทำแบบทดสอบอาจจะตอบคำตอบที่เป็นที่ยอมรับ

 

อันนี้เป็นเหตุผลว่าทำไม Test ถึงต้องมีคำชี้แจงว่า ให้ตอบด้วยความรู้สึกแรก, ให้ตอบด้วยความจริงใจ เพราะบางข้อใน Test จะเป็นลักษณะที่ไม่พึงประสงค์

 

ความรู้สึกว่าไม่อยากเป็นแบบนั้นหรือไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นแบบนั้น อาจทำให้บางคนเลือกสิ่งที่ไม่ตรงกับตัวเอง 

 

 

ทำไม Introvert ถึงถูกนำมาพูดถึงบ่อย ๆ

1.เพราะจากจำนวนประชากรโลก มีคนถึง 25-40% ที่มีบุคลิกภาพแบบ Introvert 

 

2.ด้วยบุคลิกภาพแบบ Introvert มักถูกมองว่าเก็บตัว ในบางครั้งอาจถูกมองว่าพวกเขาต่อต้านสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจผิด มีบางสังคมเหมือนกันที่มองว่าการเป็น Introvert เป็นปัญหา

 

ต้องมีเพื่อนสิ ต้องติดต่อสัมพันธ์กับคนอื่นสิ เพราะเราเป็นสัตว์สังคม แต่พอมีการแชร์ความรู้เกี่ยวกับ Introvert มากขึ้นและหลากหลายรูปแบบขึ้น การพูดถึง Introvert เลยเป็นการ normalize introvert ไปในตัว

 

บุคลิกภาพ แบบ Introvert :กลุ่มที่ต้องการเวลาส่วนตัวเพื่อชาร์จพลังงาน

ประเภทของ Introvert

1.Social Introvert

จะมีทั้งชอบช่วงเวลาที่ชอบเข้าสังคมแบบสุด ๆ หรือชอบความเป็นส่วนตัว เขาจะไม่รู้สึกประหม่าหรืออายเวลาที่ต้องเข้าสังคม อาจจะสนุกไปกับมัน แต่ก็อาจจะหมดสนุกถ้าอยู่นานมากเกินไป

 

ในขณะที่ใช้เวลาอยู่คนเดียว Social Introvert ยังต้องการเพื่อนสนิทสัก 2-3 คนที่ไว้ใจ และจะชอบเข้าสังคมมากที่สุดเมื่ออยู่ท่ามกลางเพื่อนเหล่านี้ คนอื่นอาจมองว่าเปิดเผยเมื่อเจอเขาไปเที่ยวกับเพื่อน

 

เเต่เขาจะไม่แชร์เรื่องของตัวเองให้ใครนอกจากเพื่อนสนิท

 

2.Thinking Introvert

ช่างคิด ช่างฝัน ไม่กลัวการเข้าสังคมแต่ไม่ค่อยสนใจ เพราะชอบอยู่ในโลกใบเล็กๆของตัวเอง คนอื่นอาจจะทำความรู้จักกับ Thinking Introvert ยากเพราะพวกเขาคิดไม่เหมือนใคร

 

และชอบอยู่กับความคิดของตัวเอง แทนที่จะใช้เวลาและพลังงานเพื่ออธิบายให้คนอื่นเข้าใจ

 

3.Anxious Introvert

ต้องการเวลาส่วนตัวเเม้แต่ตอนที่อยู่กับเพื่อนสนิท จะรู้สึกไม่สบายใจเมื่อต้องอยู่ในสังคมกลุ่มใหญ่หรือเข้าสังคมใหม่ๆ และจะคิด ทบทวนพฤติกรรมของตัวเองทุกครั้งที่อยู่ในที่สาธารณะ 

 

4.Restrained Introvert

เก็บตัว ช่างคิด ช่างฝัน และไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง Restrained Introvert จะไปข้างนอกถ้ามีการวางแผนไว้อย่างดีแล้ว การตื่นเช้าของพวกเขาจะไม่ลุกโดยทันทีหรอก

 

เขาจะค่อย ๆ คิด จัดระเบียบสิ่งที่อยู่ในหัว วันนี้ต้องทำอะไรบ้าง พวกเขาจะรู้สึกมีความสุขและสบายใจกับกิจวัตรประจำวัน เช่น อ่านหนังสือ ดูหนัง หรือออกกำลังกาย

 

ข้อดีของ Introvert

The quiet power of introverts  จากช่อง BBC Ideas The quiet power of introverts 

 

การใช้ชีวิตแบบเงียบ ๆ แบบความต้องการเวลาส่วนตัวของเรา ไม่ใช่ข้อบกพร่อง มันคือของขวัญ

 

  1. เราเป็นผู้ฟังที่ดีและคำพูดของเรามีความหมาย
  2. เรามีเพื่อนน้อยแต่ความสัมพันธ์นั้นลึกซึ้งมาก
  3. เราชอบใช้เวลาเงียบ ๆ อยู่คนเดียว เป็นที่ที่ความวุ่นวายของวันที่ยาวนานได้สิ้นสุดลง
  4. เราสามารถไตร่ตรองและรับฟังความคิดเห็นของตัวเองได้ดี

 

ข้อเสียของ Introvert 

  1. พลังงานน้อย เหนื่อยง่ายเวลาที่ต้ องอยู่ร่วมกับคนเยอะ 
  2. ด้วยความที่ไตร่ตรองและประมวลผลสิ่งต่าง ๆ ในหัว ถ้าพอดีจะทำให้เราเข้าใจตัวเองแต่ถ้ามากเกินไป อาจจะเรียกได้ว่าเป็น ความคิดมาก ทำให้เกิดความเครียดหรือความรู้สึกทางลบอื่น ๆ ได้ 

 

บุคลิกภาพ แบบ Extrovert : การได้เข้าสังคมทำให้เขารู้สึกเหมือนได้ชาร์จพลังงาน

Facts ของ Extrovert

1.Extrovert ไม่ได้อยากอยู่กับสังคมตลอดเวลา

อย่างที่เรารู้กันว่า Extrovert ชอบที่จะอยู่ท่ามกลางผู้คนแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาต้องการสิ่งนี้ตลอดเวลานะ ที่จริงแล้ว Extrovert ก็ต้องการเวลาอยู่กับตัวเองด้วย ต้องใช้คำว่า “ทุกคนต้องการเวลาส่วนตัว”

 

ในชีวิตของพวกเราเราทุกคนต้องมีทั้งปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและเวลาส่วนตัวอย่างที่ควรจะเป็น แต่ละคนจะแตกต่างกันไป สิ่งสำคัญคือต้องหาสมดุลให้กับตัวเอง หาวิธี หาเวลาเข้าสังคม

 

และต้องมีเวลาอยู่คนเดียวให้เพียงพอด้วย ช่วงเวลาที่เราจะได้ฟังเสียงตัวเอง ฟังความรู้สึกของตัวเอง มิ้นมองว่ามันสำคัญมาก เพราะเรามีเวลาหลายชั่วโมงมากในการอยู่กับคนอื่น คุยกับคนอื่น

 

เวลาที่เราอยู่กับคนอื่น เสียงของเราจะเบาลง ลองใช้เวลาเงียบๆนั่งฟังเสียงตัวเองบ้าง เพื่อเข้าใจอารมณ์และแก้ไขมันได้ดีมากขึ้น 

 

มีสิ่งนึงคือ “Shy Extrovert” อาจจะสงสัยว่า Shy หรือ ขี้อาย น่าจะเจอแต่ในกลุ่มคนที่เหนื่อยง่าย ไม่ชอบสังสรรค์ปาร์ตี้อย่าง Introvert สิ Extrovert จะขี้อายได้ไงในเมื่อชอบเข้าสังคม? 

 

แต่ความจริงไม่ใช่แบบนั้นเลย Shy หรือ ขี้อาย มีในตัวคนที่มีความ Extrovert ได้เหมือนกัน จากเว็บไซต์ Well and good บอกว่า Shy Extrovert จะเป็นกลุ่มคนที่ 

 

  1. เข้ากลุ่มไม่เก่ง แต่ชอบการเข้ากลุ่มมาก
  2. ชอบการอยู่ร่วมกับคนหมู่มาก แต่ไม่ชอบเป็นจุดสนใจ
  3. อาจจะต้องการเวลาส่วนตัวบ้าง แต่ถ้ามากจะไม่ดีกับคนที่เป็น Shy Extrovert เพราะถึงจะขี้อาย แต่ด้วยความที่เป็น Extrovert เลยมีความสุขมากกว่าถ้าได้อยู่ร่วมกับคนอื่น 

 

2.ไม่ใช่ว่า Extrovert จะรู้สึกว่าได้รับพลังกับทุกคนที่เขาคุยด้วยหรืออยู่ด้วย

คนทุกคนแตกต่างกัน และนั่นหมายความว่าความต้องการก็จะแตกต่างกันด้วย Extrovert บางคนชอบที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับใครก็ได้ แต่บางคนต้องการมีปฏิสัมพันธ์ที่จำเพาะเจาะจง

 

บางคนรู้สึกหมดแรงมากกว่าการได้รับพลังเมื่ออยู่กับคนที่เรียกร้องความสนใจมากเกินไป มิ้นมองว่ามันจำเป็นมากๆเหมือนกันนะ ในการที่ Extrovert ต้องค้นหาว่าคนประเภทไหนให้พลังงานกับพวกเขาจริง ๆ

 

รวมถึงการค้นหาสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เพราะถ้าใช้เวลามากเกินไปกับคนที่ไม่ใช่ สภาพแวดล้อมที่ไม่ใช่ Extrovert อาจจะรู้สึกว่าต้องอยู่คนเดียวและแยกตัวเองออกมาจากโลกภายนอก

 

จุดเเข็งของ Extrovert

  1. ทำงานเป็นกลุ่มได้ดี สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันได้ สื่อสารได้ดีมากและมีแนวโน้มว่าการทำเป็นกลุ่มจะดีมากกว่าการทำคนเดียว 
  2. ไม่มีปัญหาในการเปิดใจและพูดคุยความรู้สึกให้ทุกคนรู้ นี่ถือเป็นจุดเเข็งเพราะการสื่อสารความคิดเห็นหรือปัญหาของเรากับคนอื่นเป็นเรื่องสำคัญ
  3. เก่งในเรื่องการเอนเตอร์เทนต์คนอื่น เหมือนเป็นสีสันประจำกลุ่ม ทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวา Extrovert 0tชอบเป็นจุดสนใจของผู้คน ถือเป็นจุดเเข็งเพราะมันทำช่วยเรื่องสกิลการนำเสนอและทักษะการสื่อสารอื่น ๆ
  4. First Inpression ดีมาก การสร้างความประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอจะช่วยเราในหลาย ๆ เรื่อง เขาจะใช้เสน่ห์และการชอบเข้าสังคมเพื่อสร้างความประทับใจเเรก เช่น การเดท สัมภาษณ์งาน

 

จุดอ่อนของ Extrovert

  1. ไม่สามารถจัดการกับการอยู่คนเดียวได้ การอยู่ในห้องนานเกินไปอาจทำให้ไม่สบายใจ
  2. จัดการกับความเบื่อ
  3. บางครั้งก็พูดมากเกินไป การที่ไม่รู้ว่าควรหยุดพูดตอนไหนนั่นเป็นจุดอ่อนเพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องการฟังในสิ่งที่เราพูด 
  4. ติดคนอื่นมากเกินไป ติดหนึบ ต้องการอยู่กับคนนึงตลอดเวลา อาจทำให้คนอื่นอึดอัด
  5. เปิดเผยมากเกินไป อาจทำให้เดือดร้อนได้ ทั้งการเปิดเผยความลับหรือความรู้สึก บางครั้งอาจทำให้ถูก Manipulate ได้

 

บุคลิกภาพ แบบ Ambivert : คนที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง Introvert และ Extrovert

1.ทำได้ดีทั้งการเข้าสังคมและอยู่คนเดียว – ไม่รู้สึกเหนื่อยกับทั้งสองอย่าง สนุกกับการใช้เวลากับตัวเองและคนรอบข้าง

 

2.โดยธรรมชาติแล้ว เราเป็นผู้ฟังที่ดี-Ambivert จะตั้งใจฟังและตอบโต้ในบทสนทนาที่ได้ดี  ไม่ฟังเงียบๆหรือโพล่งออกไปเลยแบบไม่คิด

 

3.มีความยืดหยุ่นในการแก้ปัญหา -Ambivert จะไม่ยึดติดกับแนวคิดและวิธีการในการแก้ปัญหา การลองใช้วิธีใหม่ๆ ทำให้เขาได้มุมมองใหม่ที่สร้างสรรค์มากขึ้น

 

4.เป็นคนเด็ดขาดมากกว่าหุนหันพลันแล่น – Ambivert จะคิดทบทวนอย่างรอบคอบ

 

5.คนอื่นสบายใจในการพูดคุยกับเรา – Ambivert จะมีความสามารถพิเศษในการสร้างความลื่นไหลในบทสนทนา เขาจะพูดเมื่อจำเป็นและเปิดโอกาสให้คนอื่นได้พูดด้วย 

 

ถ้าการสนทนาถึงจุดที่ชอบกันเรียกว่าเดดแอร์ เขาอาจเพิ่มความคิดเห็นสั้นๆ หรือถามคำถามเพื่อให้บทสนทนาดำเนินต่อ เพราะเขาเข้าใจทั้ง Introvert และ  Extrovert ว่าจะรู้สึกอย่างไรในสภาพแวดล้อมเดียวกัน

 

6.ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์อื่นได้ง่าย เขาไม่รู้สึกรำคาญที่จะต้องวางกิจกรรมที่ทำอยู่ลงเพื่อพูดคุยกับคนข้างๆ เขาสามารถเปลี่ยนจากเที่ยวกลางวันเป็นเที่ยวกลางคืนได้

 

หรือพรีเซ้นต์ในที่ประชุมแบบกะทันหันได้ สิ่งเหล่านี้มันอาจไม่ใช่ตัวเลือกแรกที่เขาอยากทำแต่ถ้าต้องทำก็สามารถทำได้ดี

 

 

เปลี่ยนแปลงได้ไหม วันนี้เราเป็นแบบนี้ โตไปจะเป็นอีกแบบ

สามารถเปลี่ยนเเปลงได้ ตอนเด็กเราชอบเก็บตัวแต่ในบ้าน แต่พอโตขึ้นเราได้ออกไปใช้ชีวิต เราก็อาจจะชอบการผจญภัยข้างนอกแล้วกลับมาชาร์จแบตที่บ้าน

 

ถ้าสังเกตดูดี ๆ เราเปลี่ยนไปทุกวัน ไม่มีใครที่เป็น Introvert หรือ Extrovert 100%  บางทีเราอาจจะเชื่อมโยงทั้งจุดเเข็งและจุดอ่อนของตัวเอง พัฒนาในจุดอ่อน เสริมในจุดเเข็ง

 

เพื่อเป็นในแบบที่เราอยากเป็นได้ดีขึ้น และสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยที่มีผลต่อบุคลิกภาพมาก อย่างที่บอกไปว่า บุคลิกภาพ เป็นสิ่งที่คงทน คือ เราเป็นยังไงก็เป็นอย่างงั้น แต่ไม่ถาวร

 

 

บุคลิกภาพ ต่างกันอยู่ร่วมกันอย่างไร?

  1. สังคมคือการอยู่ร่วมกันของความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับการเรียนรู้ถึงความแตกต่าง ความเหมือน และการปรับตัว  
  2. ความเข้าใจคือสิ่งสำคัญ
  3. พูดตรง ๆ เลยก็โอเคเหมือนกันนะ
  4. เข้าสังคมที่หลากหลายก็ชาเล้นจ์ไปอีกแบบนะ 

 

 

ไม่รู้ได้ไหมว่าตัวเองเป็นอะไร มี บุคลิกภาพ แบบไหน?

ไม่รู้ก็ได้ ไม่เป็นอะไร แต่เราต้องรู้จักตัวเอง พ้อยต์หลักของการรีเช็คพวกบุคลิกภาพ introvert extrovert ambivert หรือ MBTI เอง คือการที่เราได้รู้จักตัวเอง ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร

 

มีความสุขกับอะไร ถ้าเรารู้พวกนี้เเล้ว บุคลิกภาพอาจไม่จำเป็นก็ได้ การรู้จักตัวเองว่าเป็นแบบไหน ส่วนที่ดีคือ เราจะได้ใช้ชีวิตให้เหมาะกับสิ่งที่ตัวเองเป็น

 

เช่น เรารู้ว่าเรามีความ Introvert มาก เราก็หาเวลาส่วนตัว เรารู้ว่าเรามีความ Extrovert มาก เราก็หาเวลาอยู่กับเพื่อน จะได้มีความสุขได้ในแบบของตัวเอง

 

ไม่ต้องจัดตัวเองไปอยู่ในกลุ่มอะไรหรือบอกว่าตัวเองเป็นแบบไหนก็ได้ ถ้าเรามีความสุขกับการอยากเป็นอะไรก็เป็น วันนี้อยากอยู่คนเดียว พรุ่งนี้อยากปาร์ตี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยค่ะ:)

 

ที่มา:

The 4 Types of Introvert – Which one are you?

seeking-introversion-when-an-extrovert-wants-to-be-alone

extrovert-vs-introvert

big-five-personality-traits

five-limitations-of-big-five-personality-test