เพราะอะไร ? เวลาอ่าน ทายนิสัย ตาม Facebook , Twitter แล้วรู้สึกว่าคำทำนายตรงกับเรา รู้สึกเหมือนคนทำนายมานั่งอยู่ภายในใจของเราเลย คำทำนายต่าง ๆ ตรงกับเราจริง ๆ หรือเปล่านะ ? ในทางจิตวิทยาหมายความว่ายังไง ?
ในช่วงก่อนหน้านี้จะมีการทำนายดวง ทำนายนิสัยผ่านนิตยสาร ผ่านหนังสือต่าง ๆ แต่ในปัจจุบันการทำนายดวง ทำ นายนิสัย ก็จะเห็นได้บ่อย ๆ ตามโซเชียล เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ อินสตราแกรม ผ่านตาให้ได้เห็นทุกวันเลยทีเดียว
และก็อดไม่ได้ด้วยที่จะเลื่อนผ่าน บางอันที่ผ่านตาได้อ่านก็รู้สึกว่าตรงจังเหมือนคนทำนายมานั่งอยู่ภายในใจของเราเลย แต่บางอันก็อ่านแล้วรู้สึกเอ๊ะ! ไม่ตรงเลย เราก็อ่านเพื่อความบันเทิงไป แต่ก็มีบางคนที่เอาการทำนายนิสัยมากำหนดชีวิตจนไม่เป็นตัวของตัวเอง . .
เหตุผลที่อ่าน ทายนิสัย แล้วรู้สึกตรง
- การใช้ศิลปะทางคำพูดที่ทำให้คล้อยตาม
ข้อมูลหลักจิตวิทยา การพูดโน้มน้าวใจ ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรแน่นอนว่าการใช้คำพูดเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ในการสื่อสารยิ่งอาชีพของ หมอดู ยิ่งสำคัญเลย เพราะอาชีพหลักของเขาคือการใช้คำพูด
ซึ่งพวกเขาอาจจะใช้ศิลปะในการโน้มน้าวใจของเราอยู่ในขณะดูดวงก็ได้
- พูดที่ทำให้เรามีอารมณ์ร่วม ในการสร้างความรู้สึกไปพร้อม ๆ กันทำให้เรารู้สึกคล้อยตาม
- แสดงให้เห็นทางเลือกทั้งด้านดีและด้านที่ไม่ดี โน้มน้าวใจให้ผู้รับสารเชื่อถือ
- การสร้างความสุขให้แก่ผู้รับสาร การเปลี่ยนบรรยากาศ ให้ผ่อนคลายด้วยอารมณ์ขัน จะทำให้ผู้รับสารเปลี่ยนสภาพจากการต่อต้านมาเป็นความรู้สึกกลางๆ พร้อมที่จะคล้อยตามได้
- การเร้าให้เกิดอารมณ์อย่างแรงกล้า เมื่อมนุษย์เกิดอารมณ์ขึ้นอย่างแรงกล้า ไม่ว่าดีใจ เสียใจ โกรธแค้น อารมณ์เหล่านี้ มักจะทำให้มนุษย์ไม่ใช้เหตุผลอย่างถี่ถ้วน พิจารณาถึงความถูกต้องเหมาะควร เมื่อมีการตัดสินใจ ก็อาจจะคล้อยไปตามที่ผู้โน้มน้าวใจเสนอแนะได้ง่าย
- การถามปลายเปิดให้คนดูดวงเล่าชีวิตตัวเอง
หมอดูบางคนอาจจะใช้ทริคในการถามคำถามปลายเปิดกับเรา เช่น ถามถึงเรื่องงานให้เราได้เล่าคร่าว ๆ แล้วเขาอาจจะจับน้ำเสียงของเราว่าเรามีความสุขไหม? ทุกข์ใจกับเรื่องงานหรือเปล่า?
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วในตอนที่ดูดวงเรามีจะมีจิตใจที่อ่อนไหวยิ่งทำให้เราคล้อยตามได้ง่ายมากขึ้นด้วย
- Barnum Effect
ปรากฏบาร์นัม Barnum Effect หรือที่เรียกว่า Forer Effect เป็นปรากฏการณ์ในทางจิตวิทยา จะเกิดขึ้นเมื่อคนคนนึงรู้สึกว่าการทายนิสัยหรือบุคลิกภาพมันตรงกับตัวเอง (เพราะว่าจริง ๆ แล้วมันอาจจะตรงกับทุกคน)
เป็นลักษณะนิสัยในตัวของทุกคน เช่น เราเป็นคนที่มีความพยายามมาก เราอยากได้รับการยอมรับจากคนอื่น บางครั้งเราทุ่มเทมากเกินไปแต่ผลลัพธ์ก็ไม่เป็นดังที่หวัง มันค่อนข้าง common sense มากว่านิสัยแบบนี้มันมีอยู่ในตัวคนทุกคน
ข้อมูลจากเพจ สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย
Barnum Effect เป็นปรากฏการณ์ที่ตั้งตามชื่อของ Phineas Taylor Barnum ซึ่งเป็นนักแสดงและเจ้าของละครสัตว์ Barnum ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการทายนิสัย
We’ve got something for everyone’ คือคำพูดที่ Barnum กล่าวไว้ คือจะมีประโยคบางประโยคหรือคำพูดบางอย่างที่สามารถเข้าได้กับทุกคน คนที่ฟังจะรู้สึกว่า “คลิ๊ก” กับตัวเองมาก ๆ ตรงกับตัวเองแบบสุดๆ
มีการทดลองของ Forer ซึ่งอธิบาย Barnum effect ให้เห็นภาพมาก ๆ
ในปีค.ศ. 1948 Bertram R. Forer นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน ได้ทำการทดลองกับนักศึกษา 39 คน โดย Forer พานักศึกษาเข้ามานั่งในห้อง และหลังจากนั้นก็บอกกับนักศึกษาว่า
เขาจะใช้ความรู้ความสามารถของเขาในการวิเคราะห์ลักษณะอุปนิสัยของแต่ละคนออกมา โดยจะเขียนใส่กระดาษแล้วยื่นให้แต่ละคนอ่าน และเมื่อนักศึกษาอ่านคำวิเคราะห์นิสัยของตัวเองแล้ว
จะต้องให้คะแนนความแม่นยำของการทำนาย โดยสามารถให้คะแนนได้ระหว่าง 0-5 ซึ่ง 0 คะแนนหมายถึง ไม่ตรงเลย ส่วน 5 คะแนนคือ แม่นมาก
ผลการทดลองออกมาพบว่า Forer ได้คะแนนรวมเฉลี่ยสูงถึง 4.26 คะแนน โดยนักศึกษาจำนวนกว่า 40% ให้คะแนนเต็ม 5 คะแนน แต่เมื่อทุกคนแลกใบวิเคราะห์กันอ่านก็ต้องอึ้งกันเป็นแถบ
เพราะทุกใบถูกทายนิสัยเหมือนกันหมด…
ปัจจัยที่มีผลทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าทายนิสัยแม่นหรือตรงจัง
- คำทำนายนั้นเป็นสิ่งพื้นฐานที่มนุษย์ต้องการ Basic Psychological Need
ซึ่งในทฤษฏีจิตวิทยากลุ่มมนุษยนิยม (Humanistic Psychology) เชื่อว่าคนทุกเรามีความปรารถนา บางอย่างที่เป็นพื้นฐาน เป็นสิ่งที่ทุกคนอยากได้ และเป็นสากลคือเหมือนกันในทุกเชื้อชาติ ทุกเพศ ทุกวัฒนธรรม
ความปรารถนาเหล่านี้ได้แก่ ความอยากเป็นที่รัก (อยากให้คนอื่นรัก) ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัย ความสงบสุข ความเป็นอิสระ และความรู้สึกว่าตัวเองมีค่า ทำให้เมื่อทำนายในสิ่งเหล่านี้ คนส่วนใหญ่ก็จะรู้สึกว่ามันตรง
- คำทำนายเป็นในทางบวก
Barnum Effect จะทำงานได้ดีที่สุด สำหรับข้อความที่เป็นบวก คำพูดเชิงบวก คนเรามักไม่ค่อยเชื่อ คำทำนายเกี่ยวกับตัวเองในเชิงลบ เช่น “คุณคิดทำร้ายคนอื่น” ดังนั้น Barnum Effect จึงมีข้อความที่มีความหมายเชิงบวกซะส่วนใหญ่
- มีความเชื่อเกี่ยวกับการดูดวงหรือเชื่อในตัวผู้ทำนาย
ถ้าพื้นฐานคนที่ชอบดูดวงเชื่อเรื่องคำทำนายอยู่แล้ว ก็มีเปอร์เซ็นต์ที่เราจะเอนเอียงไปทางว่าความรู้สึกว่าแม่นจังเลย และยิ่งถ้าผู้ที่ทำนายได้รับการการันตี
การรีวิวความแม่นยำในการดูดวงจากใครหลาย ๆ คนแล้วยิ่งทำให้มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วย
- เชื่อว่าคำทำนายมีเพื่อตัวเองเท่านั้น
เป็นลักษณะที่เฉพาะเจาะจง เช่น คนเกิดราศี … วัน .. เดือน .. พอมันเจาะจงแบบนี้มันดูพิเศษกว่าเดิม ดูมีแค่เรา ยิ่งถ้าคำทำนายที่ดีมาก ๆ แล้วเจาะจงที่เรายิ่งรู้สึกเชื่อ 100% เลย
คนอ่าน ทายนิสัย ปรับนิสัยให้ตรงกับคำทำนาย?
เรียกว่า Self Fulfilling Prophecy คือ การที่คนเรารับรู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับตัวเองมาแล้วเกิดความรู้สึกเชื่อ จากนั้นก็ทำพฤติกรรมให้สอดคล้องกับสิ่งที่ตัวเองเชื่อ ไม่ใช่แค่การทำนายนิสัยแต่กับการพยากรณ์เองก็จริง
คือไม่ว่าจะเกิดขึ้นจริงในทางตรงหรือทางอ้อม เช่น เศรษฐกิจ ณ ปัจจุบันอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดี แต่ถ้ามีคนเชื่อคำพยากรณ์ว่าปีหน้าจะดีกว่าปัจจุบัน คำทำนายก็อาจจะเป็นจริงขึ้น เนื่องจากมีคนเชื่อและลงทุนกันมากขึ้น จนเศรษฐกิจดีขึ้นมาจริง ๆ
หรือเด็กคนหนึ่งเกิดมาแล้วมีแต่คนบอกว่าเป็นคนมีบุญ เด็กก็จะทำตัวเป็นคนดีและเป็นคนมีบุญจริงในที่สุด
Self Fulfilling Prophecy ถ้าแปลเป็นภาษาไทย คือ ปรากฏการณ์ความคาดหวังสร้างความจริง มันแสดงให้เห็นว่าความเชื่อมีอิทธิพลมาก ๆ ในการขับเคลื่อนชีวิตของใครบางคน
ถ้าให้เข้าใจง่าย ๆ เช่น ที่เราบอกว่า A เป็นคนที่ดูเข้าถึงง่าย จริง ๆ A อาจจะเป็นคนเข้าถึงยาก แต่พอ B พูดแบบนั้นแล้วมันอาจจะทำให้ A เปลี่ยนตัวเองเพื่อให้สอดคล้องกับคำที่ B พูดออกไป
ข้อดีของการ ทายนิสัย
ในบางครั้งการดูดวงก็ทำให้เราเข้าใจและรู้จักตัวเอง บางทีเราอยู่กับตัวเองมาทั้งชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าตัวเองมีข้อดี ข้อเสียยังไงก็มีเหมือนกัน
การอ่านทายนิสัยบางอันมันทำให้เราได้เช็คตัวเองไปพร้อม ๆ กับการอ่านหรือฟังคำทำนาย อย่างนิสัยบางอย่างที่เราอาจจะมองข้ามไป ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีมาก ๆ บางครั้งเราก็หลงลืมข้อดีของตัวเอง
เพราะฉะนั้นมันคือพลังบวกในการที่เราจะได้ทำความรู้จักตัวเองในอีกแง่มุมหนึ่ง
ทายนิสัยบางอันมันก็จะช่วยทำให้เราได้รีเช็คจริง ๆ ว่านิสัยนี้อะเราเป็นไหม? ในส่วนที่ดีถึงแม้จะเล็กน้อยแต่เราอาจจะหลงลืมไป หรืออันไหนที่ทายว่า เช่น Aเกิดวันอาทิตย์ เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น
มองแล้วมันดูเป็นพลังลบจังเลย แต่ถ้ามันดันตรงว่า A เป็นแบบนั้น มันก็เหมือนช่วยเตือนสติ A ได้เหมือนกัน
ข้อเสียของการ ทายนิสัย
- วิตกกังวล
- มองหาข้อดีจากคนอื่นมากเกินไป
- ลังเลกับเป้าหมาย
- เจอคำทำนายไม่ดีทำให้เกิดการลดคุณค่าตัวเอง
การดูดวงจะเกิดข้อเสียขึ้นก็ต่อเมื่อเราไม่มีวิจารณญาน วิจารณญานคือสิ่งที่สำคัญในการดำรงชีวิตมาก ๆ ถ้าเราดูดวงหรือทายนิสัยเพื่อความสบายใจ แต่คำทำนายออกมาในทางลบ เราก็ต้องมีวิจารณญาน
ไม่หวั่นไหวหรือวิตกกังวลเกินไป ที่สำคัญที่สุดคือเราต้องเชื่อมั่นต่อความคิดของตัวเอง เชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง
ถ้าเราเชื่อทำนายมากเกินไปจนลืมว่าตัวตนเราเป็นแบบไหน เชื่อจนขาดวิจารญาณจนทำร้ายต้วเรา ทำร้ายคนอื่นโดยที่ไม่รู้ตัวอันนี้คือเริ่มไม่ค่อยดีแล้ว เราต้องเชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง
หรือถ้าในตอนนั้นเราจิตใจอ่อนแอเลยตัดสินใจไปดูดวง ก็อยากให้ยึดสิ่งที่เราเป็นที่เป็นเราไว้ เช่นเราเป็นคนยิ้มง่ายกับเรื่องเล็ก ๆ เราเป็นคนชอบทำความสะอาด เป็นคนชอบขอบคุณคนอื่น นึกถึงสิ่งดี ๆ ที่เราทำเพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวให้ตัวเอง
การดูดวงเป็นความเชื่อส่วนบุคคลจริง เราไม่ได้มีเจตนาที่จะขัดความเชื่อของใคร เพียงแค่อยากมาแชร์ข้อมูลความรู้และไขข้อสงสัย เผื่อว่าอาจจะมีบางคนอยากหาคำตอบเช่นเดียวกัน 🙂
ที่มา:
https://www.facebook.com/216848761792023/posts/624532671023628/
https://www.brandthink.me/content/horoscope
https://www.kaidee.com/blog/th/why-do-people-still-believe-in-astrology/
https://www.britannica.com/technology/measurement
https://www.bangkokbiznews.com/blogs/columnist/117830
Post Views: 4,002