คำแนะนำเพื่อเตรียมตัวก่อนเข้า พบนักจิตวิทยา เราต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง? หรือตัวเราเองมีสัญญาณเตือนอย่างไรที่ควรเข้าพบนักจิตวิทยา
บทความนี้ Alljit ร่วมกับ คุณรัชดาภรณ์ ศรีวิลัย นักจิตวิทยาคลินิก พูดคุยทุกประเด็นในเรื่องสุขภาพใจ ไขข้อสงสัยว่าเราควรเข้าพบนักจิตวิทยาหรือยัง บอกเล่าถึงอาการความปกติและไม่ปกติที่เรามักจะสงสัยกับตัวเอง
ก่อน พบนักจิตวิทยา ปกติหรือไม่ปกติแยกอย่างไร?
แยกได้ด้วยจากการที่เราเอาตัวเรามาเป็นไม้บรรทัด เพื่อที่เราจะได้นำไม้บรรทัดนั้นมาวัดจากมาตรฐานของตัวเราเอง ว่าตัวเรามีอะไรที่เปลี่ยนไปจากความปกติความเป็นของตัวเราเองหรือเปล่า โดยจะมีสัญญาณเตือน ดังนี้
- ความเปลี่ยนแปลงทางด้านภาวะอารมณ์
จากเดิมที่เราเคยมีภาวะอารมณ์แบบที่เราเคยเป็น กลับกลายเป็นเราในแบบที่เราไม่เคยพบเจออารมณ์มุมนี้ของตัวเองมาก่อน
เช่น ความหงุดหงิดง่ายขึ้น โมโหง่ายขึ้น มีอารมณ์เศร้าผิดปกติ หรือเราไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
- ด้านความคิดของตัวเราเอง
เราจะไม่สามารถวัดจากความคิดของคนอื่น ๆ อยากให้เราได้เทียบกับตัวเราเอง เช่น จากเดิมที่ตัวเราเองเป็นคนที่สามารถจดจ่อที่จะทำอะไรได้ ใส่ใจลายละเอียดของการทำงานได้ แต่กลับเปลี่ยนไปเป็นเราที่ไม่สามารถจดจ่ออะไรนาน ๆ ได้เลย
- พฤติกรรมที่มีจากเปลี่ยนแปลงไปทั้งทางด้านร่างกายและพฤติกรรม
เริ่มมีความรู้สึกไม่อยากดูแลตัวเอง เริ่มรู้สึกว่าความสะอาดรอบตัวเริ่มไม่สำคัญแล้ว หรือกับบางคนที่เคยเป็นคนชอบเข้าสังคม กลายเป็นไม่อยากพูดคุยกับใคร อยู่ห่างจากเพื่อน ห่างจากครอบครัว และบางคนก็มีพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนแปลงไป
อาจจะกินน้อยลง หรือมากขึ้นกว่าเดิม บางคนนอนน้อยนอนไม่หลับ หรือกับบางคนเริ่มควบคุมการแสดงออกทางพฤติกรรมของตัวเองไม่ได้
เมื่อมีความเปลี่ยนแปลงกับตัวเอง เราควรทำอย่างไร?
เมื่อเรารู้สึกถึงสัญญาณเตือน 3 ข้อดังกล่าว ที่เกิดขึ้นกับเราอยากให้เราลองสังเกตตัวเอง ว่าสิ่งเหล่านั้นส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของหรือเปล่า ทำให้เราใช้ชีวิตแย่ลงไหม เช่น คนที่เคยทำงานได้ดี
แต่อยู่ ๆ วันนึงรู้สึกว่าเราควบคุมให้ตัวเองทำงานเสร็จสิ้นไม่ได้ ทำให้งานเสีย แบบนี้เรียกว่าเริ่มส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หรือบางคนเข้าไปกระทบในเวลาเรียน บางคนจะเริ่มรู้สึกว่าไม่อยากเรียน เรียนไม่รู้เรื่อง
เริ่มมีผลกระทบต่อการขาดเรียน ติดเพื่อนมากเกินไปหรือเรียกว่าทำอะไรที่ไม่ใช่หน้าที่หลักที่เราควรทำอยู่ตอนนั้น บางคนกระทบต่อความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง แต่ถ้าตัวเราเองไม่สามารถรู้สึกได้ถึงสัญญาณการเปลี่ยนไปของเรา
คนรอบข้างอาจจะสังเกตได้และสะท้อนกลับมาเป็นคำพูด เพื่อเตือนเราเราอาจจะต้องนำคำพูดเหล่านั้นมาทบทวนกับตัวเรา เมื่อเราทบทวนแล้วเรารู้สึกว่าเราเปลี่ยนไป อยากให้เราลองเข้าพบนักจิตวิทยาเพื่อที่ได้รับคำแนะนำ
ต้องเตรียมตัวอย่างไรเมื่อเข้าพบนักจิตวิทยา
การที่เราจะเข้าพบผู้เชี่ยวชาญเป็นคำถามที่มักจะเกิดขึ้นกับตัวเอง เมื่อเราอยากเข้าพบซึ่งเราสามหาคำตอบได้ ดังนี้
1. เตรียมเรื่องปัญหาความยุ่งยากที่เข้ามาเกี่ยวกับตัวเรา และให้เตรียมเป้าหมายของตัวเราที่เราเลือกเข้าไปพบนักจิตวิทยา อยากได้รับการช่วยเหลือตรงนั้น เพื่อให้การตรวจและการรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
2.ทำใจให้สบาย ๆ เพราะการที่เราเข้าไปพบนักจิตวิทยา ในห้องนั้นจะเปรียบเสมือนพื้นที่ที่สบายใจของเรา
3.เตรียมใจในการทำความเข้าใจในปัญหาของตัวเราเอง เราจะต้องเปิดใจในการพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมากับนักจิตวิทยา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายมากขึ้น
อยากให้เปิดใจว่าการที่เราไปพบนักจิตวิทยาไม่ได้แปลว่าเราบ้า หรือเป็นอย่างที่ใคร ๆ เขาเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเข้าพบนักจิตยากัน
หากว่าเราพบสัญญาณเตือนของตัวเองว่าเราควรเข้าไปพบนักจิตวิทยา อยากให้เราได้ฟังเสียงของเรามากขึ้น ความต้องการของเรา เป้าหมายของเรา
อย่าไปฟังเสียงของคนอื่นที่มีความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับการเข้าพบนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์การเข้าพบก็เพื่อตัวของเรา เพื่อให้ตัวเราในปัจจุบันและอนาคตได้มีชีวิตที่ดีขึ้น
Post Views: 2,159