เมื่อ แฟนพูดทำร้ายจิตใจ เราจะมีวิธีรับมืออย่างไร?
บทความนี้ Alljit ร่วมกับคุณวันเฉลิม คงคาหลวง (นักจิตวิทยาการปรึกษา) เจ้าของแฟนเพจ Trust.นักจิตวิทยาการปรึกษา
มาพูดคุยเกี่ยวกับประเด็น “แฟนพูดทำร้ายจิตใจ”
“แฟนพูดทำร้ายจิตใจ” เป็นเรื่องที่เราพบเจออยู่เสมอ
วันนี้หัวข้อที่เราจะพูดถึงเป็นเรื่องที่พบเจอได้อยู่บ่อย ๆ และฟังดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เมื่อเจอเหตุการณ์คำพูดที่ทำร้ายจิตใจกันอยู่บ่อยครั้ง
เริ่มรู้สึกบั่นทอนจิตใจจนอยากจะหาวิธีพูดกับเขา ให้เขารับรู้ว่าเราไม่ชอบโดยที่ไม่ต้องทะเลาะกัน “ก่อนที่เราจะพูด เราเป็นนายคำพูด แต่พอเราพูดไปแล้ว คำพูดจะเป็นนายเรา”
ถ้าเราพูดไปแล้ว ต้องรับผิดชอบกับคำพูดนั้น เรื่องคำพูดเป็นเรื่องสำคัญที่เราทุกคนควรคิดก่อนที่จะพูดอะไรออกมา
อยากให้ฟังเสียงของหัวใจตัวเอง และคิดว่าจะพูดกับเขาอย่างไรดี เพื่อให้เขาเข้าใจโดยที่ไม่ต้องทะเลาะกัน
การบอกความรู้สึกของเราออกไปเมื่อ “แฟนพูดทำร้ายจิตใจ”
เราอาจจะต้องพึ่งศิลปะในการนำเสียงในใจมาบอก ต่อให้เขาได้รับรู้ด้วยคำพูดที่นุ่มนวล สุภาพ ถ้าหากคู่รักของเราพูดคุยกันด้วยภาษาพ่อขุนรามเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
ก็พูดได้เพียงแต่อย่าใส่อารมณ์เข้าไป ให้ใช้น้ำเสียงที่ฟังดูแล้วไม่ได้เป็นการชวนทะเลาะ
ถ้าเผลอใส่อารมณ์ต่อให้เราพูดคำสุภาพแค่ไหนแต่น้ำเสียงฟังดูก้าวร้าว
อีกฝ่ายจะรับรู้แค่ว่าตอนนี้เรากำลังโกรธ และนั่นอาจจะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาที่แท้จริงได้
เก็บความโกรธไว้ในใจเมื่อ “แฟนพูดทำร้ายจิตใจ”
ไม่ใช้คำพูดแดกดัน คำพูดด่าทอ และใส่อารมณ์ ควรบอกให้เขารู้ว่าคำพูดของเขาคำไหน ประโยคแบบไหน ที่ทำให้รู้สึกว่าไม่โอเค ไม่ดีต่อความรู้สึกของเรา
บอกให้ชัดเจนดีกว่าการไม่พูดอะไรเลย เพราะนั่นไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ถูกต้อง
สมมุติว่าถ้าเราถูกแฟนเรียกว่า “ เหนียง ” ซึ่งตอนแรกอาจฟังดูตลกขบขัน แต่บ่อยครั้งอาจจะเริ่มรู้สึกไม่โอเคแล้ว
ถ้าแฟนของเรารักเรา เราต้องลองบอกเขาว่ารู้สึกอย่างไร อยากให้เขาหยุดเรียกแบบนี้ได้ไหม ถ้าเขาแคร์เราเขาจะปรับเปลี่ยน
เพื่อรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้อย่างแน่นอน แต่ถ้าเขาตอบกลับมาแบบไม่ใส่ใจใยดีนั่นแปลว่า เขายังแคร์ความรู้สึกของไม่มากพอ
กรณีที่โดนวิจารณ์จากเพื่อนหรือคนอื่น
การวิจารณ์หรือการแซวเรื่องของรูปร่างหน้าตา เช่น หน้าบาน หัวเถิก ขาใหญ่ ห่วงยาง ล้วนแต่เป็นการบูลลี่อย่างหนึ่งที่บางครั้งคนพูดอาจไม่รู้ตัว
เพราะคิดแค่ว่าฉันอยากที่จะพูดให้ดูตลก ฉันอยากที่จะหยอกล้อฉันอยากที่จะทักทาย
ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีมาช้านานที่คนเรามักจะเล่นตลกกับสิ่งแย่ ๆ ของคนอื่น มักเอารูปร่างหน้าตาของคนอื่นมาหยอกล้อ โดยที่ไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคนที่ถูกกระทำ
สาเหตุเกิดจากความเคยชินจากวัฒนธรรมที่ส่งต่อมาถึงปัจจุบัน และนี่ไม่ได้หมายความถึงแค่ประเทศไทย แต่เป็นกันทั่วโลกจึงเป็นต้นเหตุให้บางครั้งคนเราทำอะไรที่ไม่น่ารักออกมา
ด้วยคำพูดที่ทำร้ายคนอื่นแบบไม่คิดให้ดี เพียงแค่ต้องการให้ทุกอย่างออกมาดูตลก แต่ไม่รู้จักการเลือกสรรคำพูดหรือไตร่ตรองให้ดีก่อน
หากเราถูกวิจารณ์ เราควรที่จะพูดตรง ๆ หรือ มองข้าม?
อย่างแรกคือเราเองต้องประเมินความสัมพันธ์ก่อนว่า เขาคือคนสำคัญ หรือเป็นคนที่ไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิตของเราเลย จากนั้นฟังเสียงหัวใจของตัวเองว่า
เราอยากจะพูดคุยกับเขาอยู่ไหม หรือไม่อยากจะพูดคุยกับเขาอีกแล้ว หากเลือกที่จะพูดก็อาจจะต้องพูดอย่างนิ่มนวล
เพราะถ้าใช้คำที่พูดรุนแรงก็จะทำให้ความสัมพันธ์นั้นแตกหักไปเลยก็ได้ แต่หากเราเลือกที่จะไม่พูดก็สามารถเลือกที่จะไม่พูดก็ได้
เพราะปลายทางนั้นคือ ทำอย่างไรก็ได้ให้ใจเราไม่ทุกข์ ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญนั่นคือ
“การฟังเสียงหัวใจตัวเองเป็นหลัก”
ดังนั้น การสื่อสารสามารถร้างความสัมพันธ์ได้ และสามารถทำลายความสัมพันธ์ได้เช่นเดียวกัน ก่อนที่จะพูดอะไร อยากให้คิดทบทวนไตร่ตรองให้ดีก่อน
นึกถึงผลที่จะตามมา เพราะบางทีอาจจะต้องรับผิดชอบต่อความสัมพันธ์ และสิ่งที่ได้พูดออกไป
Post Views: 10,703