ถ้าเราไถฟีดเราจะเห็นกระแสรักตัวเองที่ค่อนข้างเยอะ ซึ่งมันเป็นเรื่องดี แต่อาจมีอยู่หลายๆ
ครั้งที่เวลาที่เรารู้สึกแย่ หรือไม่รักตัวเองเราจะรู้สึกผิด เราจะฝืนให้ตัวเองคิดบวก จนบางทีมันแอบรู้สึกอึดอัดแปล ๆ
บางครั้งเราจะรู้สึกแย่กับตัวเอง แต่บางทีพอกระแสการรักตัวเองมันเยอะมาก ๆ มันก็เลยเหมือนบังคับให้เราพูดได้ไม่เต็มปาก
ชวนตั้งข้อสังเกต แล้วค่อยๆดูไปพร้อมกันว่า การแสการรักตัวเองมันเยอะไปจนเป็นผลเสียรึเปล่า
Toxic Positivity / Toxic Self-love
มุมจิตวิทยาใช้คำว่า Toxic Positivity คิดบวกจนเป็นพิษ
หมายถึงการกระทำที่ หลีกเลี่ยง กดเก็บ หรือปฎิเสธความรู้สึกหรือประสบการณ์เชิงลบ
ปฎิเสธอารมณ์ของตัวเองหรือคนอื่น แล้วยืนกรานที่จะให้คิดบวกแทน “หลีกเลี่ยง เก็บกด ปฎิเสธ ประสบการณ์เชิงลบของตัวเอง/คนอื่น”
การหลีกเลี่ยงอารมณ์ในระยะราวจะทำให้เรารับมืออารมณ์ไม่เป็น จัดการอารมณ์ตัวเองไม่ได้
และบางครั้งก็คาดหวังว่าทุกอย่างจะต้องดี จะต้องสวยงาม ต้องมองโลกในแง่บวกสิแล้วมันจะจบได้ด้วยดี
ซึ่งบางสถานการณ์ตรงหน้า มันเกินที่จะอธิบายได้แต่เราก็ยังจะไม่เป็นไร ธรรมชาติของคนเราถูกออกแบบมาให้มีหลายอารมณ์เกิดขึ้น
ถ้าเราจะปิดลบเปิดบวกอย่างเดียวบางอย่างที่เรากดไว้ มันจะทำร้ายเราในภายหลัง
เพราะฉะนั้นถ้าเราคิดบวกจนเป็นพิษจะสร้างปัญหาในการใช้ชีวิตกับเรา ผลกระทบการ Toxic Positivity ถ้าเราสะสมไปเรื่อย ๆ
ก็จะไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตที่ร้านแรงได้ เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล การเก็บกดความรู้สึก
แค่ไหนถึงรักมากเกินไป
- รักตัวเองจน Toxic คือการไม่ให้ตัวเองได้พูดถึงเลย พูดไม่ได้ คิดลบไม่ได้ จนรู้สึกโดดเดี่ยว ถูกใช้เพื่อตัดบทคนอื่น ไม่อยากให้พูด ไม่อยากฟัง
- พยายามผลักทุกอย่างออกไป ปลอบตัวเองแบบผิดๆว่ามันจะไม่เป็นไรแต่จริง ๆ เป็น ซึ่งบ่อยมากเหมือนหลอกตัวเอง
5 สัญญาณ โลกสวยจนเป็นพิษ
- ปฎิเสธ เก็บกดอารมณ์เชิงลบ แทนที่ด้วยอารมณืเชิงบวกที่ปลอม (เราไม่ได้รู้สึกจริงๆ)
2. แทรกแซงการแสดงออกทางอามรณ์โดยปกติ
3. รู้สึกผิด / รู้สึกแย่กับครสที่เกิดขึ้น
4. ไม่สามารถเคารพอารมณ์หรือประสบการณ์ของคนอื่นได้
5. ตำหนิความรู้สึกคนอื่น
6. ถูกคนรอบตัวเอาเปรียบแต่ก็ยังปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไร หรือบางครั้งเราก็บิดความรู้สึกจริง ๆ ที่ควรเกิดขึ้นว่าเราไม่ชอบนะ ที่เขาทำ แต่ก็บิดว่า มปร เขาเป็นแบบนี้นี่แหล่ะ
รับมือถ้าเราติดอยู่กับการโลกสวยจนเป็นพิษ
- ประชุมกับตัวเอง ถามว่าเรากำลังรู้สึกยังไง ต้องการอะไรตอนนี้ โดยที่เราไม่ต้องกดดัน
- ให้ตัวเองมองแง่บวก ไม่ชอบ โกรธ เกลียด มันรู้สึกได้
- ยอมรับความรู้สึกทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะบวกขนาดไหน หรือลบแบบขั้นสุด แต่ค่อย ๆ พาตัวเองไปยอมอารมณ์ที่เกิด
- เรียนรู้ที่จะอยู่กับอารมณ์นั้น ๆ โดยที่เราต้องซื่อตรงกับตัวเอง
- ถ้าหากเราจัดการตัวเอง ไม่ได้ ลองให้คนอื่นจัดการ เพื่อนสนิท ใครก็ได้ที่พอจะรับฟัง ช่วยเหลือเราได้
บางครั้ง เวลาเจอคนอื่นมาปรึกษาแล้วเขากำลังรู้สึกไม่ดี เราในหน้าที่สายซัพ เมื่อคำปลอบโยนหรือการแนะนำของเรา
ชี้ไปในทางที่ชวนให้ปฎิเสธอารมณ์เชิงลบที่เกิดขึ้น เช่น พยายามบอกให้เขามองในแง่บวก อย่าเศร้าเลย หรือ มองในแง่ดีสิ คนอื่นแย่กว่าเราตั้งเยอะ
เพราะฉะนั้นรับฟัง ด้วยความรู้สึกเข้าใจ แสดงให้เห็นว่าการมีอารมณ์เชิงลบต่าง ๆ นั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาของคนทุกคน
ให้อีกฝ่ายได้ระบายความรู้สึกอย่างที่กำลังรู้สึกจริง ๆ ไม่เอาบรรทัดฐานของใครไปวัดค่าคนอื่น เพราะคนเรามีพื้นฐานการเติบโตและสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน
มันโอเคที่จะไม่ชอบตัวเองบ้าง มันโอเคที่จะเล่ามุมที่ไม่บวกให้ใครสักคนฟัง มันคืออารมณ์ ๆ หนึ่ง ให้มันเข้ามา ยอมรับว่ามันมีอยู่ แล้วสุดท้ายก็ปล่อยให้มันไหลออกไปตามธรรมชาติ
และก็บางทีการไม่ชอบตัวเองบ้างมันก็ดีนะสำหรับมาย บางทีเราอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่ชอบบ้างเพื่อจะได้ตกตะกอน
อะไรบางอย่างหรือหาข้อบกพร่องของตัวเอง แต่อย่าให้มันมาควบคุมเรา ทุก ครส ที่เกิดขึ้นมันเกิดได้มันก็หายไปได้เหมือนกัน
Post Views: 14