สำนวนไทยที่ว่า “สวม หน้ากาก เข้าหากัน” มักฟังดูเป็นการเสแสร้ง แต่ในทางจิตวิทยา
คือเรื่องปกติที่เราทุกคนทำกันในชีวิตประจำวัน เพื่อให้เข้ากับบริบททางสังคมและบทบาทต่าง ๆ โดยไม่รู้ตัว
“หน้ากาก” ในทางจิตวิทยา: ทำความเข้าใจและปลดปล่อยตัวตนที่แท้จริง
คาร์ล ยุง (Carl Jung) นักจิตวิทยาผู้ริเริ่มทฤษฎี “แผนที่จิตใจมนุษย์” (Map of Psyche) ได้อธิบายถึงสิ่งที่เรียกว่า “เพอร์โซนา” (Persona) ซึ่งเป็นภาษากรีกแปลว่า “หน้ากาก”
ยุงอธิบายว่าเพอร์โซนาคือ “ระบบความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างจิตสำนึกของบุคคลและสังคม คล้ายเป็นหน้ากากชนิดหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้อื่นประทับใจ
และเพื่อปกปิดธรรมชาติที่แท้จริงของบุคคลนั้นๆ” พูดง่าย ๆ คือ มันคือบทบาทที่เราสร้างขึ้นเพื่อเข้าสังคมและเก็บซ่อนความเป็นตัวเราบางส่วนเอาไว้
อิทธิพลของสังคมที่มีต่อหน้ากากของเรา
หน้ากากที่เราสวมมักได้รับอิทธิพลจากสังคมเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นค่านิยม วัฒนธรรม หรือความคาดหวังบางอย่างที่สังคมมีต่อเรา
ลองนึกภาพว่าคุณเป็นคนขี้เล่น ชอบพูดตลก แต่เมื่อต้องรับบทบาทเป็นครูในห้องเรียน คุณอาจต้องสวมหน้ากาก “ครูที่ดี”
ที่ดูจริงจังและมีความรู้ เพื่อให้สอดคล้องกับบทบาทและความคาดหวังเหล่านั้น
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การมีหน้ากาก แต่อยู่ที่การ “ไม่รู้ตัว”
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การมีหน้ากาก แต่คำถามสำคัญคือ: เราตระหนักรู้หรือไม่ว่าเรากำลังสวมมันอยู่?
และที่สำคัญกว่านั้นคือ เราสามารถถอดมันออกได้หรือไม่ หรือมันกลายเป็น “ตัวเราไปแล้ว” โดยที่เราไม่ทันสังเกต?
ตัวอย่างเช่น นักธุรกิจที่ต้องสวมบทบาทเป็นคนเด็ดขาดในที่ทำงาน อาจเผลอนำบทบาทนั้นกลับบ้าน
จนกลายเป็นพ่อที่เข้มงวดเกินไปกับลูกโดยไม่รู้ตัว สิ่งนี้อาจทำให้เขากดดันและละเลยอารมณ์ของลูกมากเกินไป จนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเขากับลูกได้
ดังนั้น การมีหน้ากากไม่ใช่เรื่องผิด แต่เราต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ควรสวม และเมื่อไหร่ควรปล่อยวาง
เพอร์โซนา: เสื้อผ้าของเรา vs. ตัวตนที่แท้จริง
หากเปรียบเทียบง่าย ๆ เพอร์โซนาคือเสื้อผ้าที่เราเลือกใส่ในแต่ละสถานการณ์ ส่วน ตัวตนที่แท้จริง (Self) คือตัวเราที่อยู่ใต้เสื้อผ้านั้น
ปัญหาคือ เมื่อเราใส่เสื้อผ้าชุดเดิมซ้ำ ๆ นานเกินไป เราอาจลืมไปเลยว่าภายใต้ชุดนั้น เรายังมีตัวตนที่แตกต่าง
ยุงยังกล่าวถึงสิ่งที่เรียกว่า “Individuation” หรือการเติบโตทางจิตใจอย่างแท้จริง ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเรากลับมาเชื่อมโยงกับตัวตนจริง ๆ ของเรา
ไม่ใช่ปล่อยให้หน้ากากที่เคยมีประโยชน์กลายเป็นกรงขัง การใช้ชีวิตแบบไม่ตรงกับตัวตนที่แท้จริง
หรือ Inauthentic Living คือการที่เราแสดงบทบาทอยู่ตลอดเวลา จนแยกไม่ออกว่าสิ่งไหนคือการแสดง
และสิ่งไหนคือตัวตนที่แท้จริงของเรา และบ่อยครั้งที่เราอาจรู้สึก “เหนื่อย ว่างเปล่า หมดไฟ” นั่นอาจเป็นเพราะเราสวมหน้ากากมากเกินไป จนลืมตัวตนที่แท้จริงของเราไป
การทำความเข้าใจเรื่อง “หน้ากาก” หรือ “เพอร์โซนา” ไม่ใช่การตัดสินว่าการแสดงบทบาทในสังคมเป็นเรื่องผิด
แต่เป็นการเชื้อเชิญให้เราตระหนักรู้ถึงบทบาทที่เราสวมใส่ เพื่อให้เราสามารถเลือกที่จะเป็นตัวของตัวเองได้อย่างแท้จริง
และใช้ชีวิตได้อย่างเต็มศักยภาพโดยไม่ถูกกักขังด้วยความคาดหวังของผู้อื่น
แล้วอะไรคือ “หน้ากาก” ที่สวมอยู่บ่อยที่สุดในชีวิตประจำวัน…?
Post Views: 7