แคร์คนอื่น

วิธีเลิก แคร์คนอื่น ว่าเขาจะมองเราอย่างไร? เลิกกลัวว่าเขา จะไม่ชอบเรา

เรื่องAdminAlljitblog

วันนี้เรามาแนะนำวิธีเลิก แคร์คนอื่ หรือการที่จะทำให้ตัวเราลดการแคร์คนอื่นน้อยลงและแคร์ตัวเราเองให้มากยิ่งขึ้น

ทำไมเราถึงต้อง แคร์คนอื่น?

เป็นเรื่องปกติมาก ๆ เลยที่คนโดยทั่วไปจะกังวลกับสายตาที่คนอื่นจ้องมองมาที่เรา แต่กับบางคนก็ให้ความสำคัญกับสายตาคนอื่นค่อนข้างมาก กลับกลายเป็นเราแคร์คนอื่นมากกว่าตัวเอง

 

เพราะตัวเขาเองอาจจะแค่ต้องการความรัก การยอมรับนับถือจากผู้อื่่นหรือเวลาที่รู้ว่าเราแคร์คนอื่นทำให้ตัวเองมีคุณค่า แต่กับบางคนก็คิดว่าการที่เราแคร์อื่นมากเกินไปสามารถทำให้เราก้าวเข้าไปสู่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น

 

โดยอ้างอิงจากทฤษฎีมาสโลว์ หรือ ลำดับความต้องการขั้นพื้นฐาน (Maslow’s Hierarchy of Needs) 5 ขั้น

 

โดยความต้องการขั้นพื้นฐานที่ไม่ได้รับการเติมเต็มก็จะทำให้เกิดความกังวล จนเกิดความแคร์คนอื่นมากกว่าตัวเอง 

ไม่อยากแคร์คนอื่นทำยังไงดี? 

ธรรมชาติของมนุษย์เราบางทีเราอยากดูดีในมุมของคนอื่น ทำให้ใครหลายคนเก็บความคิด เก็บคำพูดของคนอื่นจนลืมไปว่าเป้าหมายของตัวเองคืออะไร

 

หากว่าเรามัวแต่ไปมองคนอื่น สนใจคนอื่น แคร์คนอื่น หากว่าเราเป็นเช่นนั้นอยู่แล้วเราอาจจะต้องหันมามองตัวเองว่าเราอยากเป็นแบบนี้จริง ๆ หรอ

วางการแคร์คนอื่นให้น้อยลง เทคนิคเพื่อทำให้สามารถกลับมามั่นใจในตัวเอง 

1. อยากให้เราระลึกไว้ว่าคนอื่น ๆ ไม่ได้สนใจเราเท่ากับเราสนใจตัวเอง การที่เรามองว่าคนอื่นสนใจเรา จะต้องเป็นที่ยอมรับสำหรับคนอื่น มันคือความต้องการของเรา ที่อยากเป็นคนที่ดูดีในสายตาคนอื่น

 

ซึ่งการที่เราตกเป็นเป้าสายตาคนอื่นทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว เราไม่จำเป็นต้องแคร์ว่าการที่เราเป็นเราแบบนี้คนอื่นจะคิดอย่างไร เขาจะมองตัวเราอย่างไร ไม่มีใครเอาเวลามาใส่ใจเราเท่าที่เราเอาเวลาหันมาใส่ใจตัวเอง

 

2. พยายามเปลี่ยนวิธีการสื่อสารกับตัวเอง ไม่มีใครมานั่งพูดคุยกับเราได้เท่ากับเราได้มาพูดคุยกับตัวเอง พยายามตีความสิ่งที่เราเห็น สิ่งที่เราคิด ทั้งหมด  ตัวเราเป็นคนเลือกเองว่าอยากแสดงออกแบบไหน

 

ทำความเข้าใจกับตัวเองใหม่ว่าจำเป็นต้องดูดีในสายตาคนอื่นตลอดไหม? ต้องเป็นคนดีอยู่เสมอหรือเปล่าเวลาที่เราอยู่กับใครสักคนที่เราสนิทกับเขาจริง ๆ

 

โดยพื้นฐานไม่มีใครมาบอกเราได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเขาคิดอย่างไรกับเรา มีแต่เราเท่านั้นที่สามารถพูดคุย และสร้างเรื่องราวขึ้นมาเองว่าพวกเขาอยากให้เราเป็นแบบไหน

 

3. ทำความรู้จักกับคนใหม่ ๆ บ้าง ออกไปเจอใครใหม่ ๆ อะไรใหม่ ๆ เพื่อให้ตัวของเราได้มีมุมมองความคิดต่าง ๆ ได้กว้างมากขึ้น ถ้าเรารู้สึกว่าเราอยู่กับใครแล้วเราต้องทำให้ดีอยู่ตลอดเวลานี่อาจจะเป็นสัญญาณเตือนที่ผิดของความคิด

 

จริง ๆ แล้วมีความคิดเดียวที่สำคัญที่สุด ก็คือเราสามารถควบคุมตัวเองได้ทั้ง ๆ ที่เรามีทางเลือกเป็นความคิดของตัวเราเอง

 

4. ไม่จำเป็นต้องทำให้คนอื่นสบายใจตลอดเวลา ตราบใดก็ตามที่เราทำอะไรแล้วเรารู้สึกไม่สบายใจ หรือเราไม่ได้รู้สึกว่ามีความสุขที่จะทำในสิ่งนั้น ๆ เราไม่จำเป็นเลยที่จะต้องคิดว่าคนอื่น ๆ จะคิดอย่างไร

 

แต่ให้หันกลับมามองที่ตัวเราเองสิ่งที่เรากำลังเลือกทำเราสบายใจแล้วหรือยัง? สิ่งที่เราทำลงไปสร้างความสุขให้เราหรือยัง? และตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมเราถึงจะเลือกทำสิ่งนี้ให้คนอื่นรู้สึกสบายใจด้วย

 

5. โฟกัสที่การควบคุมความคิดของตัวเอง ไม่ใช่ควบคุมความคิดของคนอื่น เพราะว่า เราไม่สามารถที่จะควบคุมความคิดของคนอื่นได้ หรือว่าพฤติกรรมของคนอื่นได้เลยนอกจากตัวเราเอง 

 

6. อย่าพยายามทำให้ทุกคนพึงพอใจเกี่ยวกับตัวเอง ธรรมชาติของมนุษย์มักจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองอยากจะเชื่ออยู่แล้ว คนทุกคนมีแนวคิดและความเชื่อเป็นของตัวเอง จากประสบการณ์การเรียนรู้ที่ก่อตัวขึ้นเป็นความเชื่อจากบางสิ่งบางอย่าง

 

และความเชื่อเหล่านั้นมักจะถูกนำมาใช้ตัดสินคนอื่นอยู่ตลอดเวลาจากสิ่งที่เราเห็น ต้องยอมรับว่าจริง ๆ แล้วเราก็มักจะนำความเชื่อเหล่านั้นมาตัดสินสิ่งที่อยู่รอบตัว ไม่ว่าเราจะทำอะไรที่เป็นเรื่องธรรมดาบางคนอาจจะมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี

 

เพราะฉะนั้นเราควรที่จะเลือกว่าเราควรให้ความสำคัญกับคนกลุ่มไหน หรือให้ความสำคัญกับใครที่เขามีอิทธิพลกับตัวเรา

 

7. การที่เรากังวลกับสายตาคนอื่นมันไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป เพราะจริง ๆ แล้วมนุษย์คือสัตว์สังคมที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม เป็นหมู่

 

มันเกิดจากความคิดที่แตกต่าง ตัวเราเอาความคิดของคนอื่นมาใส่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ต้องจำกัดตัวเองให้อยู่ระดับที่พอดี 

 

สำหรับใครที่กังวลมาก ๆ กับสายตาคนอื่น อยากให้หันกลับมาใส่ใจกับอารมณ์ของตัวเอง ความคิดตัวเอง และปล่อยวางคำพูด ความคิดของคนที่อยู่รอบตัว

 

แต่ก็ต้องตรวจสอบตัวเองว่าสิ่งที่เราสร้างออกมาได้สร้างความเดือดร้อนให้ใครไหม สร้างความไม่พอใจให้ใครหรือเปล่า

 

ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ เราสามารถปรับปรุงในส่วนที่ทำให้ใครไม่พอใจได้ไหม หรือพัฒนาตัวเองได้ไหมกับการที่ไม่ต้องเอาตัวเองไปเป็นที่ตั้งของใคร และเดินหน้าต่อไปด้วยความรู้สึกสบายใจที่เราเป็นเรา และได้รับความยอมรับ ความเคารพจากคนอื่นร่วมไปด้วย

 

พยายามเลิกแคร์ที่คนอื่นคิดต่อเรา ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าสิ่งที่เราทำอยู่เป็นสิ่งที่ถูกต้องและมีความเป็นตัวเองแล้ว

Related Posts