อกหัก

อกหัก ไม่ถึงตาย จริงหรอ? ทำไมไม่รู้สึกแบบนั้น จากใจนักจิตวิทยา

เรื่องAdminAlljitblog

ใคร ๆ ก็ต้องเคย อกหัก ร้องไห้แทบตาย แต่สุดท้ายก็ไปกันไม่ได้อยู่ดี ” อกหักไม่ถึงตาย ” คำที่มักจะใช้พูดเพื่อปลอบใจคนที่กำลังอกหัก แล้วอกหักมันไม่ถึงตายจริงไหม ทำไมบางคนรู้สึกเจ็บเจียนตาย ทำไมบางคนมูฟออนได้ไว

อกหัก ไม่ถึงตายจริงไหม ใครเป็นคนเจ็บกว่ากัน

จากงานวิจัยปี 2015 ได้สำรวจว่าผู้หญิงที่อกหักจะมีความฟื้นตัวเร็วกว่าผู้ชาย เพราะผู้หญิงจะมีความรู้สึกว่าต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อก้าวต่อไปข้างหน้าให้ได้

 

แต่ผู้ชายจะรู้สึกว่าเจ็บนะ อยู่กับปัจจุบันให้เจ็บ รับรู้ความรู้สึกเจ็บตรงนี้ให้เต็มที่ และไม่ได้รู้สึกว่าต้องทำอะไรเพื่อก้าวข้ามความเจ็บแต่เรียนรู้กับความเจ็บปวดตรงจุดนี้แทน

 

แต่ความจริงไม่ว่าใครจะเจ็บกว่าหรือ Move on ได้เร็วกว่า ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ความผูกพันทางอารมณ์และความรู้สึกของตัวบุคคลนั้น

ความเจ็บปวดทางกายคืออะไร?

ความเจ็บปวดทางกายเมื่ออกหักจะมีอาการ 3 วัน คือมีอาการหัวใจเต็นเร็ว หูร้อน หน้าชา มาจากระบบของการไหลเวียนของเลือด 

 

 

ความเจ็บปวดทางใจคืออะไร?

ความเจ็บปวดทางใจคือความรู้สึกอยากร้องไห้ตลอดเวลา เศร้า เจ็บปวดใจ

 

 

อกหัก ไม่ถึงตายจริงไหม?

 

อาจจะไม่จริง เพราะอาการทางร่างกายเมื่ออกหักก็สามารถทำให้ส่งผลกระทบได้ หากคนนั้นมีโรคประจำตัวก็สามารถส่งผลต่อร่างกายเขาได้เมื่อเขาอกหัก

 

 

อกหัก มีระยะเวลาไหม?

 

บางคน Mone on ได้เร็ว บางคนใช้เวลาเป็นปีกว่าจะก้าวออกมาจากความเจ็บปวดได้ แต่ละคนใช้ระยะเวลาไม่เท่ากันเพราะประสบการณ์ ความรู้สึกแตกต่างกัน

 

ระยะเวลาขึ้นอยู่กับตัวบุคคล ไม่สามารถตัดสินได้ เพราะเป็นเรื่องทางความรู้สึก

 

บางคนหายจากอาการอกหักแล้วแต่ยังคงไม่กล้ารักใครได้เลย เพราะประสบการณ์และความรู้สึกยังคงมีอยู่ แม้ว่าความเจ็บปวดจากการอกหักหายไปแล้วแต่ด้านความรัก มุมมองเปลี่ยนไปจากการอกหักก็มีได้

 

 

ปลอบใจคน อกหัก ทำอย่างไรดี?

ต้องให้เวลากับเขาก่อน เพราะอาการอกหักก็มีความเจ็บปวดทั้งทางใจ ทางกาย และทางความรู้สึก ซึ่งก็ถาโถมเข้ามาพร้อมกัน เวลาอาจจะช่วยให้เขารู้สึกเบาบางลงได้ เปรียบเหมือนกับความเจ็บปวดจากการฉีดยา

 

ในเวลานั้นอาจจะกลัวเจ็บมาก พอฉีดยาเสร็จแล้ว ความรู้สึกอาจจะไม่ได้เจ็บอย่างที่เราคิด เช่นเดียวกับการอกหัก ก็ต้องใช้เวลาในการเยียวยาความเจ็บปวด

 

 

เป็นไปได้ไหม ที่อกหักแล้วไม่เจ็บเลย?

 

เป็นไปได้ยาก ถ้าหากไม่เจ็บจริง ๆ บุคคลนั้นอาจจะไม่ได้รักกันหรือไม่รู้สึกอะไรเลย การอกหักก็ต้องมีเจ็บบ้าง เพราะเป็นความผิดหวัง เสียใจ เป็นความสูญเสียหลาย ๆ อย่าง 

 

 

อกหัก ส่งผลให้เป็นโรคซึมเศร้าได้ไหม?

เป็นไปได้ที่อกหักแล้วจะเป็นโรคซึมเศร้า แต่ก็มีหลายสาเหตุเข้ามาเกี่ยวข้องได้ เพราะคนที่อกหักแล้วไม่ได้เป็นซึมเศร้าหรือคนเป็นซึมเศร้าแล้วอกหักก็มีได้

 

แต่อาการอกหักไม่ใช่ปัจจัยหลักของโรคซึมเศร้า เพราะโรคซึมเศร้ามีปัจจัยหลายอย่าง ด้านสภาพแวดล้อม การเลี้ยงดู ประสบการณ์ในอดีต ความเครียด หรือสารเคมีในสมองต่างเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เกิดโรคซึมเศร้าได้

 

ควรทำอย่างไร หากเราหักอกเขาหรือบอกเลิกใคร แล้วเขาบอกว่า อยากฆ่าตัวตาย?

ต้องเริ่มจากใจเย็นๆและลองถามเขาให้ชัดเจนว่าสาเหตุคืออะไรที่ทำให้เขาอยากฆ่าตัวตาย ซึ่งไม่ต้องเกรงกลัวกับการถามหรือวิตกกังวลมากเกินไปจนส่งผลกระทบกับตัวเอง

 

เพราะสิ่งที่เขาบอกยังไม่มีอะไรมาการันตีได้ว่าเขาจะทำจริงหรือไม่จริง พูดคุยกับเขาให้เกิดความชัดเจน เข้าใจกันและกันก่อน เพราะบางทีสิ่งที่เขาบอกอาจจะไม่ใช่แค่การเรียกร้องความสนใจ

 

อาจจะเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริงได้เช่นกัน ด้วยประสบการณ์หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เขาเจ็บปวดจนเขาไม่สามารถยอมรับความเจ็บปวดในจุดนี้ได้แต่เขาก็ไม่ได้อยากจากไป

 

จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขานำมาต่อรองเพื่อให้เราอยู่กับเขาต่อไป และทุกคนต่างมีความซับซ้อนต่อความรู้สึก ก่อนที่จะเข้าใจใครต้องเข้าใจความซับซ้อนของตัวเองก่อนเพื่อแก้ไขและหาทางออกกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

 

หากพยายามใจเย็นและแก้ไขทุกทางแล้ว ยังไม่ดีขึ้น สามารถปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญได้ อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีต่อความสัมพันธ์ 

 

Move On ไม่ได้ควรทำอย่างไร?

ต้องเริ่มจากชัดเจนกับตัวเองก่อนว่า Move on ไม่ได้เพราะอะไร เราต้องการอะไรจากความรักครั้งนี้ คาดหวังอย่างไรกับความสัมพันธ์ ถึงทำให้เราไม่สามารถก้าวออกมาจากความรู้สึกได้

 

และเลือกยอมรับความจริงว่าทุกคนมีสิทธิ์เลือกชีวิตตัวเอง ความรู้สึกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทุกเส้นทางชีวิตของแต่ละคนมีแตกต่างกันได้ อาจจะต้องไม่นำความสัมพันธ์มาตัดสินชีวิตทั้งหมด 

 

ถ้าหากยังไม่พร้อมที่จะก้าวออกมา เราเลือกที่จะอยู่กับความรู้สึกตรงนี้ได้ ว่าเรายังรักและคิดถึงเขาอยู่ ชีวิตเราอาจจะก้าวไปข้างหน้าแล้ว แต่ในเรื่องความรักเรายังคงเป็นเขาอยู่ ก็ไม่ต้องฝืนใจก้าวออกมา 

 

Move on อาจจะไม่ต้องกลับไปแก้ไขอะไรในอดีต แต่เป็นการเข้าใจและยอมรับในเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อให้ตัวเองได้กลับมาใช้ชีวิตกับปัจจุบันและก้าวต่อไปข้างหน้าได้