ภาวะ Dead Inside หรือ ความรู้สึกว่างเปล่า กับคำพูดที่ว่าเหลือแค่ร่าง แต่ข้างในสลายไปหมดแล้ว ดูเป็นคำที่ดูสร้างความทุกข์ให้กับคน ๆ หนึ่งได้มากเลย วันนี้เรามีรับรู้ไปพร้อมกัน ว่าแบบไหนที่เรียกว่า Dead Inside
Dead Inside คืออะไร ?
Dead Inside คือ สภาวะอารมณ์ที่มีแต่ความรู้สึกที่ว่างเปล่า ข้างในมีแต่ความทุกข์ใจ รู้สึกเฉื่อยชา พลังงานหายไป ไม่มีแพชชั่น ไม่รู้ว่าทางข้างหน้าจะต้องทำอย่างไร ว่างเปล่าไปหมด
เหมือนกับการมองหาเป้าหมายแต่ไม่มีอะไรให้มองเห็น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนยุคนี้ได้ง่าย ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เหนื่อย
สาเหตุของ Dead Inside เกิดขึ้นได้เมื่อเราเจอกับความรุนแรงในความรู้สึกของเราเอง หรือเรียกอีกอย่างว่า โรคเครียด และเก็บความรู้สึกแย่มามาก
สำหรับบางคนก็อาจจะมีภาวะซึมเศร้ามาก่อนหน้า ก็สามารถส่งผลให้เกิด Dead Inside ได้เหมือนกัน
Dead Inside เหมือน Burn out ไหม
Dead Inside และ Burn out จะไม่เหมือนกัน เพราะ Burn out ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นมาจากการทำงาน ในช่วงวัยทำงาน เป็นผลมาจากความเครียดจากการทำงานหนักเกินไป
หรือว่างานยากเกินไป สะสมกลายเป็นความรู้สึกนั้นขึ้นมา แต่ถ้าเราลองหยุดพัก หรือว่าสถานที่ทำงาน ก็สามารถช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นได้เหมือนกัน
สำหรับ Dead Inside คือความว่างเปล่า ไร้จิตวิญญาณไปเลย ไม่มีแพชชั่นในการใช้ชีวิตและไม่มีจุดมุ่งหมาย รวมทั้งการมองโลกทุกอย่างเป็นด้านลบไปหมด และอาจจะส่งผลให้เป็นสาเหตุของโรคซึมเศร้าได้เหมือนกัน
ผลกระทบของ Dead Inside
เกิดความทุกข์ต่อตัวเอง ส่งผลกับการใช้ชีวิตด้วยเหมือนกัน ไม่มีแพชชั่นในการใช้ชีวิต แม้ว่าสิ่งเหล่านั้นที่ทำจะเป็นสิ่งที่เราชอบมาก่อนหน้าก็ตาม
การสังเกตจากการดูว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันส่งผลกับวิถีชีวิตของเราเอง หากว่าเราใช้ชีวิตของตัวเองไม่ได้ แน่นอนว่ามีบางอย่างที่เราต้องตรวจเช็คแล้วเช่นกัน
Dead Inside จัดการอย่างไร ?
การจัดการหากิจกรรมทำ เพื่อผ่อนคลาย หรือว่าหาคนรับฟัง เพื่อระบายความรู้สึกของตัวเองกันก่อน ก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยได้เหมือนกัน
หรือไม่การเข้าพบนักจิตวิทยากันก่อน ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับตัวของคนที่มีอาการ Dead Inside ด้วยเหมือนกัน
ในการคุยกับผู้เชี่ยวชาญ ทำให้เราได้รับรู้ถึงสภาพปัญหา จัดการกับตัวเองและสิ่งที่เกิดขึ้นได้ดียิ่งขึ้น ถูกต้องและมีคุณภาพเหมือนกัน
ถ้ารู้สึกว่าอยู่ในภาวะ Dead Inside แต่ไม่ว่างไปพบผู้เชี่ยวชาญทำไงดี…?
การลองปรึกษากับคนใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว คนรัก หรือว่าเพื่อนสนิท ในเบื้องต้นกันก่อนได้ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ การเข้ารับคำปรึกษาจากนักจิตวิทยาเป็นอีกทางเลือกที่ดีเหมือนกัน
ถ้าเราจมอยู่กับปัญหาหรือว่าภาวะนี้ การเข้าพบผู้เชี่ยวชาญเพื่อแก้ไขให้ได้ทันท่วงที เป็นทางที่ดีที่สุด
และสำหรับคนที่กำลังมีภาวะนี้ รู้สึกไม่ไหวแล้ว ร่างกายรู้สึกว่างเปล่า ไม่มีแรงที่จะทำอะไรแล้วจริง ๆ จงอย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือจากนักจิตวิทยา นักจิตบำบัด หรือว่าผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นจากสภาวะนี้
หรือถ้าไม่ว่างจริง ๆ การใช้งานพบจิตแพทย์ หรือว่านักจิตวิทยาผ่านแอพลิเคชั่น ที่ในตอนนี้อาจจะมีหลาย ๆ คนเข้าใช้งานกันอยู่เหมือนกัน ก็เป็นอีกตัวเลือกสำหรับคนที่ไม่มีเวลา
ทำให้มีการเข้าถึงที่ง่ายขึ้น สะดวกขึ้นเหมือนกัน สมัยนี้ไม่ใช่เรื่องที่ผิด หรือว่าดูผิดปกติเลยที่จะเข้าพบจิตแพทย์ หรือว่าหานักจิตวิทยา ในตอนนี้สังคงเปิดขึ้น โลกเปลี่ยนไปแล้ว
เพราะฉะนั้นเข้าพบคุณหมอ เพื่อตัวของเราเองกันก่อนดีกว่า ตัวเลือกมีมากมายดูแลตัวเองและจิตใจของเราเองกันก่อนดีกว่า
Post Views: 6,458