บุคลิกภาพที่ถูกพูดถึงบ่อย ๆ อย่าง Introvert จริง ๆ แล้วในทางจิตวิทยาคืออะไร? อยากเปลี่ยนไปเป็น Extrovert ทำได้ไหม?
Introvert คืออะไร?
อย่างที่หลายคนรู้จัก คงเป็นคำเรียกและคำที่ใช้แทนตัวเอง คำนี้ในทางทฤษฎีคือคำว่า Introversive ที่เป็นเรื่องของบุคลิกภาพ เจ้าของทฤษฎีพยายามแบ่งหมวดหมู่ของบุคคลในเรื่องของลักษณะท่าทาง
เพื่อทำให้ได้อย่างทั่วถึงกันเมื่อพูดถึงคำว่า Introvert เราจะเห็นภาพว่าคนนี้เป็นคนอย่างไร ชอบอะไรที่ดูสงบ ชอบการอยู่คนเดียว ชอบทำอะไรที่จะต้องใช้ความคิดตัวเอง
ถ้าอยากเปลี่ยนไปเป็น Extrovert เป็นไปได้ไหม?
ถ้าเปลี่ยนเป็นคนละขั้วเลย ตอบยาก ตามหลักทฤษฎี คำนี้เป็นแค่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราเข้าใจว่าคนนี้เป็นอย่างไร ด้วยบุคลิกภาพในลักษณะแบบ Introversive หรือ Extratensive ถามว่าจะเปลี่ยนไปเป็นอีกฝั่ง
ต้องบอกก่อนว่ามนุษย์เรามีความ Introvert และ Extrovert ในตัวเองอยู่แล้ว ไม่มีใครเป็นแค่อันใดอันหนึ่ง ทุกคนจะมีทั้งสองฝั่ง แต่อะไรที่เด่นขึ้นมามากกว่ากันแล้วแสดงให้เห็นว่านี่คือบุคลิกภาพของคนนี้
พอเราพูดถึงบุคลิกภาพ เป็นการที่คนนี้มี Pattern การใช้ชีวิต การคิด การตัดสินใจ การเข้าหาคนอื่น หรือการที่เขามีลักษณะแบบนี้ที่เฉพาะเจาะจงที่เด่นขึ้นมา อยู่ที่ว่าในโมเมนต์นั้นมีอะไรที่กระตุ้นเรา
จนเราต้องแสดงมุม Extrovert ออกมาไหม พอพูดถึง Extrovert คือการที่เราต้องแสดงตัวตน กล้ามากพอที่จะแสดงความคิดเห็น หรือสามารถที่จะไปยืนอยู่ในสถานการณ์ที่มีแรงกดดันเยอะ ๆ
Extrovert จะทำอะไรแบบนี้ได้ดี ถามว่า Introvert มีโอกาสเป็นแบบนั้นไหม คงเกิดขึ้นได้ ถ้ามีอะไรทำให้เราต้องแสดงตัวตนแบบนั้นออกมา สิ่งสำคัญคือต้องยืดหยุ่น เมื่อไหร่ที่บุคลิกภาพของคนนั้น
ไม่เกิดความยืดหยุ่น แล้วเรามีแค่ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง โดยที่ไม่แสดงอีกฝั่งหนึ่งออกมาเลยในการที่จะต้องรับมือกับปัญหาและจัดการสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นแล้วสร้างความกดดันให้ คงไม่ดีต่อตัวเรามากนัก
ขี้อาย เก็บตัว และ Introvert แตกต่างกันอย่างไร?
เก็บตัวเป็นเรื่องของลักษณะพฤติกรรม ขี้อายเป็นเรื่องของลักษณะนิสัย ต่างกันนะ พฤติกรรมกับนิสัยอาจไม่ได้สอดคล้องกัน คนขี้อายหลายคนไม่ได้เก็บตัว แต่ขี้อายอาจจะเกิดจากการไม่มั่นใจในตัวเอง
หรือรู้สึกว่า มีการปรับตัวที่ช้า ทำให้รู้สึกว่าต้องใช้เวลาถึงจะเริ่มคุ้นเคย พอคุ้นเคยความขี้อายจะลดลง ขี้อายเป็นนิสัยของบุคคล แต่พอพูดถึงการเก็บตัว เก็บตัวเป็นได้ทั้งลักษณะนิสัยและพฤติกรรม
มากไปกว่านั้นคือเก็บตัวเป็นเรื่องของกลไกป้องกันตัวเองด้วย เราจะเก็บตัวเมื่อข้างนอกดูไม่ปลอดภัย หรือเกิดความรู้สึกอะไรที่มากระทบ แล้วเรารู้สึกว่าสิ่งนั้นแย่ เราเลยจะเก็บตัว
ข้อดีและข้อเสียของการเป็น Introvert มีอะไรบ้าง?
ข้อดีของ Introvert
1. มักจะใช้ความคิดและจินตนาการ เขาจะพยายามคิดทบทวนก่อนลงมือทำอะไร
2. เป็นคนที่สามารถวางแผน organize สิ่งต่าง ๆ ได้ดี
3. มีความคิดสร้างสรรค์ ทำให้สามารถสร้างผลงานได้ดี
4. มีความรอบคอบในการทำงาน
5. ใส่ใจคนอื่น
6. ได้ทำกิจกรรมที่ต้องจดจ่อและใช้สมาธิได้เยอะ เพราะสามารถตัดเสียงรบกวนได้แม้อยู่ในที่สาธารณะ
7. มีโอกาสได้อยู่กับตัวเองเยอะ ได้ทำอะไรที่อยากทำ ได้ใส่ใจตัวเอง
8. เป็นคนที่ระมัดระวังในการพูด การสื่อสาร การแสดงออกพฤติกรรมของตัวเอง
ข้อเสียของ Introvert
1. คิดมากเกินไป จนกลับมาทำร้ายตัวเอง
2. ใส่ใจในรายละเอียด ทำให้ไวต่อสิ่งต่าง ๆ มากเกินไป
3. ผิดหวัง เวลาใส่ใจคนอื่นมาก ๆ แล้วไม่ได้รับกลับมา
4. การพยายามจัดระบบระเบียบชีวิตมากที่เกินไป จะกลายเป็นไม่ยืดหยุ่น อึดอัดที่ต้องทำนอกแบบแผน
5. ด้วยความที่ระมัดระวังตัวเองมาก เลยจะยากต่อการมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
Introvert เพื่อนน้อย จริงไหม?
ตอบยากเหมือนกัน อาจจะขึ้นอยู่ที่บุคคลมากกว่า Introvert ไม่ได้เพื่อนน้อยเสมอไป เขาอาจจะแค่ชอบอยู่กับคนในปริมาณที่ไม่มาก เช่น การที่จะไปเจอกันหนึ่งครั้ง ขอแค่ 2-3 คนพอแล้ว
แต่ไม่ได้แปลว่า เขามีแค่กลุ่มเดียว เขาอาจจะมีหลายกลุ่ม ปริมาณไม่ได้บ่งบอกว่าคุณภาพเป็นอย่างไร เพราะงั้นเลยบอกแบบนั้นไม่ได้ว่าเขามีเพื่อนน้อย เขาอาจจะรู้สึกว่าแค่นี้มัน Private
มันสบายใจ มันเป็นตัวเองได้ ไม่ต้องใช้เอเนอจี้เยอะมากในการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ที่สำคัญคือเขาคงรู้ว่า นี่คือพื้นที่ที่สบายใจ เป็นตัวเองได้ คงจะเป็นการตัดสินเกินไป ถ้าจะบอกว่า Introvert
เพื่อนน้อย บางทีเขาอาจจะมีเพื่อนหลากหลายกลุ่มมากกว่า Extrovert ขึ้นอยู่ที่บุคคลด้วย เรื่องการเข้าสังคม Extrovert อาจจะไม่ได้เข้าสังคมได้ง่ายด้วย เขาอาจจะต้องใช้ความพยายามเหมือนกัน
Introvert ที่เข้าสังคมยาก จะเริ่มต้นเข้าหาคนอื่นได้อย่างไร?
ต้องมองเรื่องของทักษะความสามารถในการปรับตัว การปรับตัวจะเกิดขึ้นกับมนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะเป็น Introvert หรือ Extrovert ถ้าคนที่มีลักษณะ Introvert แล้วปรับตัวได้ช้า ต้องใช้ระยะเวลา
ใช้ความคุ้นเคย กว่าจะเริ่มกล้ามากพอที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น อาจจะต้องมองไปที่พื้นฐานด้วยว่า เขาปรับตัวได้ดีมากน้อยแค่ไหน? เพราะ Introvert บางคนอาจจะปรับตัวได้ดี แต่อาจจะแค่
ต้องรวบรวมความรู้สึกของตัวเอง หรือ คิดทบทวนว่ากับคนนี้ควรเข้าหายังไง? แต่ถ้าเป็นกรณีที่กลัว การเข้าหาคนอื่นยาก อยากให้ลองดู เพราะความกลัวเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้น ความไม่กล้าเป็น
กำบังที่เข้ามาเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่ายาก กลัวได้ แต่กลัวแล้วลองหน่อย ลองไปตรวจสอบกับตัวเองหน่อยว่า สิ่งนั้นน่ากลัวจริงไหม? ลองกับตัวเองก่อนแล้วกำแพงจะค่อย ๆ ถูกทำลายลง
อาจจะไม่หายไป แต่เราจะได้เห็นอะไรที่สอดคล้องมากขึ้น ว่าความกลัวนั้นจำเป็นที่จะต้องกลัว 10 เต็ม 10 จริงไหม? แน่นอนว่าก่อนที่จะเริ่มต้น ความกลัวอาจจะอยู่ที่ 10 เต็ม 10 แต่ถ้าลองไป
สักครั้งหนึ่ง ลองดูว่าทำกลับมาแล้ว feedback ดีหรือไม่ดีไม่เป็นไร แต่ความกลัวลดลงไหม? การลองอาจจะช่วยทำลายกำแพงความไม่กล้า ทำให้เข้าหาคนอื่นได้ง่ายขึ้น การไปมีปฏิสัมพันธ์
ไม่ได้อยู่ที่ว่าเราเป็น Introvert ไหม แต่มีองค์ประกอบหลายอย่างมาก บางทีเรามีประสบการณ์บางอย่างที่ไม่ดีมาก ๆ หรือเคยไปลองแล้วแต่กลายเป็นว่าความกลัวจาก 10 เต็ม 10 เพิ่มไปเป็น
100 เต็ม 10 แบบนี้เกิดขึ้นได้ ประสบการณ์เหล่านั้นจะสอนเราว่าอย่าทำเลย แต่ถ้าจะเร่งรีบ ต้องทำได้ทันที อาจจะกดดันเกินไป คาดหวังว่าจะออกมาดีมากเกินไป ตั้งรับความผิดหวังไว้ด้วย
ใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความสุข?
ส่วนตัวชอบการที่เรามีเวลาว่าง การที่เราทำงาน เข้าสังคม ใช้ชีวิต เราเจอคนเยอะมาก เราจะรู้สึกเหนื่อย เพราะความว่างจะทำให้เราได้ชาร์จพลังตัวเอง เราได้กลับมาอยู่กับความสุขของตัวเอง
เมื่อไหร่ที่มีโอกาส จะทำทุกอย่างที่ทำให้รู้สึกว่า สบาย สุข สงบ กิจกรรมเลยจะไม่ค่อยหลากหลาย เช่น นอนพักผ่อน ได้กินกาแฟ ได้ออกไปกินชาเชียวร้านใหม่ ๆ ได้เล่นกับแมว ได้อ่านหนังสือ
แค่นี้เลย ได้ใช้ชีวิตง่าย ๆ สบาย ๆ ตามแบบที่ตัวเองอยากได้ หรือใช้ชีวิตแบบไหนที่ทำให้เราได้พักจากโลกภายนอกจริง ๆ จะเป็นความสุขมาก การรู้จักตัวเองสำคัญมากที่จะเป็นคน ๆ หนึ่งที่มี
ความสุขได้ หลายคนจะวิ่งอยู่บนความต้องการของคนอื่น ความสุขของคนอื่น ถ้าเราทำให้คนนี้มีความสุขเราถึงจะมีความสุข แต่อย่าลืมว่าเรามีชีวิตของเราเอง ถ้าเราไม่รู้ว่าอะไรคือความสุข
สงบ ความสบายใจ ของตัวเอง สุดท้ายเราจะเอาตัวเองไปผูกติดกับคนอื่นตลอดเวลา แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า ตลอดชีวิตนี้เราจะอยู่กับคนนี้ได้
ทุกคนมีความสุขได้ ไม่ว่าจะมีบุคลิกภาพแบบไหน 🙂
Post Views: 4,065