White Lies

White Lies โกหกสีขาว โกหกเพื่อความสบายใจ

เรื่องAdminAlljitblog

การโกหกที่เราได้ยินกันมาเชื่อว่าพอพูดคำว่าโกหกใคร ๆ ก็คงไม่ชอบ แต่จะมีการโกหกประเภทหนึ่งที่เรียกว่า การโกหกสีขาว หรือว่า White Lies การโกหกเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจนั้นเอง 

 

White Lies การโกหกสีขาว 

เป็นการพูดเพื่อหวังให้เกิดสิ่งดี ๆ กระชับความสัมพันธ์แก่สังคมรอบตัว คนรัก เพื่อน ทุก ๆ ความสัมพันธ์ หรือโกหกเพื่อให้สบายใจคนรอบข้างนั้นเอง แต่เป็นการพูดที่มีจุดประสงค์ไปในทางที่ดี 

 

Cambridge Dictionary ได้ให้ความหมายของ White Lies ว่า “เป็นการโกหกที่บอกเพื่อเป็นมารยาทหรือโกหกเพื่อหยุดใครสักคนไม่ให้เสียใจจากความจริง”

 

ที่จะเห็นในประโยคบ่อย ๆ คือ Little white lies ที่แปลว่า การโกหกเล็กๆน้อยๆ นั่นอาจจะหมายความว่า White Lies ใช้ได้กับเรื่องเล็กน้อย ที่ไม่ได้สำคัญหรือกระทบกับอะไรมากนัก 

 

ข้อมูลจาก apa เป็นบทความงานวิจัยเกี่ยวกับ White Lies

งานวิจัยนี้ได้แบ่ง White Lies ออกเป็น 2 รูปแบบ คือ

1. Altruistic White Lies 

ประเภทการโกหกแบบเห็นแก่ผู้อื่น เป็นการโกหกในเรื่องที่มีความสำคัญน้อยที่สุด ใช้บอกเพื่อปกป้องอีกฝ่ายอาจจะแลกกับราคาที่ต้องจ่ายของคนที่โกหก

 

เป็นประโยชน์ต่อความสัมพันธ์ที่จะทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมากขึ้น โดยการสร้างกันชนขึ้นเพื่อปกป้องอีกฝ่ายจากผลกระทบที่มาจากความจริงที่เป็นอันตรายถึงแม้จะค่อนข้างน้อย

 

เป็นเหมือนการสร้างภาพลวงตาต่อความสัมพันธ์ในเชิงบวกที่มีความเกี่ยวข้องกับความพึงพอใจในความสัมพันธ์

 

2. Pareto White Lies 

ประเภทที่โกหกเพื่อช่วยทั้งคนอื่นและผู้ที่โกหก แต่ผู้ที่โกหกส่วนใหญ่มักจะมีความลังเลที่จะใช้ Pareto White Lies แสดงให้เห็นถึงการเกลียดชังการโกหกอย่างแท้จริง

 

โดยไม่ขึ้นอยู่กับความพอใจส่วนรวม สำหรับผลลัพธ์ที่จะได้จากการโกหก แต่ผู้โกหกเต็มใจที่จะเลือกใช้ Altruistic White Lies แม้ตัวเองจะเจ็บปวดเพียงเล็กน้อย แต่ช่วยเหลือคนอื่นอย่างมาก

 

โกหก กับ White Lies ?

White Lies แตกต่างจาก การโกหก White Lies มักถูกอธิบายว่าไม่เป็นอันตรายต่อผู้อื่น โกหกเพื่อรักษามารยาทและกระชับความสัมพันธ์ เป็นการบิดเบือนความจริงเพียงเล็กน้อย

 

เช่น การที่คนรักถามเราว่าเขาดูอ้วนขึ้นไหม ซึ่งจริง ๆ คนถามอาจจะรู้ตัวแล้วแต่อยากได้รับความมั่นใจจากคนรัก 

 

แต่การโกหกที่แท้จริงมักเป็นเจตนาที่ผู้พูดเห็นแก่ตัว เอาตัวรอด และจะเป็นคำโกหกที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันคิด และเป็นคนโกหกที่ไม่เป็นความจริง

 

การโกหกมักจะให้ประโยชน์กับคนโกหก แต่กลับกันคนที่ White Lies จะเป็นประโยชน์ต่อบุคคลที่ถูกโกหกในความสัมพันธ์

 

การโกหกจะเป็นการเพิ่มผลตอบแทนของคนโกหกโดยที่คนอื่นต้องเสียไป แต่คนที่เลือกใช้ white lies ส่วนใหญ่จะเป็นการทำเพื่อคนอื่นโดยที่ตัวเองก็อาจจะได้รับผลกระทบอะไรสักอย่าง

 

ทำให้เห็นว่าการโกหกในรูปแบบต่างๆมีความสัมพันธ์กับ สิ่งจูงใจ การเกลียดการโกหก (Lying Aversion) และความพึงพอใจในผลลัพธ์ที่ได้

 

7 ประเภทการโกหก จาก Sintelly

 

1. โกหกหน้าตาย (Bold-Faced Lie)

การโกหกในรูปแบบนี้เป็นการโกหกทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าคนอื่นรู้ว่าตัวเองโกหก เช่น โกหกเด็ก ๆ ว่าช็อคโกแลตไม่ดี แต่ตัวเองก็กิน

 

2. ผิดสัญญา (Broken Promises) 

การผิดสัญญาหรือการไม่รักษาคำมั่นสัญญาจะสร้างความเสียหายมากขึ้นเมื่อบุคคลที่สัญญาบางอย่างไม่ได้คิดที่จะรักษาคำพูดของตัวเองตั้งแต่แรก

 

3. โกหกแบบปั้นน้ำเป็นตัว (Lie of Fabrication)

การโกหกในรูปแบบนี้คือการโกหกหรือพูดในสิ่งที่เราไม่มั่นใจว่าเป็นความจริงหรือไม่ แน่นอนว่านั่นอาจจะเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น แต่สามารถสร้างความเสียหายให้กับบุคคลที่ถูกกล่าวถึงได้

 

4. โกหกหลอกลวง (Lies of Deception)

พยายามที่จะสร้างความประทับใจที่อาจจะนำไปสู่ความเข้าใจผิด โดยการสร้างเรื่องที่ไม่จริงหรือบอกความจริงไม่หมด

 

5. โกหกเกินจริง (Lying in Exaggeration)

การปรุงแต่งความเป็นจริงด้วยการโรยคำโกหกไปผสมกับความจริงให้น่าประทับใจ

 

6. การลอกเลียนแบบ (Plagiarism)

หรือการขโมยความคิด คือการขโมยและโกหกไปพร้อมๆกัน สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการ Copy ผลงานคนอื่นมาเป็นของตัวเอง

 

7. โกหกสีขาว (White Lies)

การโกหกสีขาวบางครั้งถือว่าร้ายแรงน้อยที่สุดจากการโกหกทั้งหมด แต่คำโกหกเล็กๆ น้อยๆ จำนวนมากสามารถนำไปสู่ความขัดแย้งได้ เนื่องจากคนที่ใช้ White Lies สามารถดูน่าเชื่อถือน้อยลง

  • โกหกเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น นักวิทยาศาสตร์เรียกความโกหกที่มีเจตนาดีว่าเป็นคำโกหกเชิงสังคม ซึ่งแตกต่างจาก การโกหกต่อต้านสังคม
  • ความจริงที่ต้องพูดออกไปอาจทำลายความสัมพันธ์
  • โกหกเพื่อความมั่นคงในความสัมพันธ์ โดยต้องเป็นการโกหกเล็กๆ น้อยๆ 
  • เพื่อสร้างกำลังใจ
  • เพื่อปกป้องวิธีที่คนอื่นมองเรา เช่น เราตกงาน แต่เราบอกพ่อแม่พี่ลาออกเพราะมันไม่ท้าทายพอแล้ว
  • เพื่อให้เราจัดการปัญหาตรงหน้าได้ง่ายมากขึ้น เช่น โกหกเรื่องตั๋วคอนเสิร์ต 
  • เกิดจากประสบการณ์และการเรียนรู้กับคนคนนั้นหรือสิ่งนั้น
  • อำนาจที่มากกว่า เช่น เจ้านาย+ลูกน้อง

เหตุผลหลักของ White Lies มีอยู่ 2 เหตุผล คือ

1. เพราะไม่ต้องการทำร้ายความรู้สึกอีกฝ่าย

2. เพราะต้องการหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง

 

บทความจาก Romper: 7 White Lies It’s Necessary To Tell To Keep Your Relationship Healthy จำเป็นต้องใช้เพื่อรักษาความสัมพันธ์ให้เเข็งแรง

  • เมื่อสิ่งนั้นจะทำให้ความไม่มั่นคงทางจิตใจของคนอื่นเเย่ลง
  • เมื่อเราไม่ชอบครอบครัวหรือเพื่อนของเขา
  • เมื่อเราไม่ชอบสิ่งที่สำคัญมากๆสำหรับเขา
  • เมื่อเราอยากเปรียบเทียบเขากับคนรักเก่า
  • เมื่อเราไม่แน่ใจว่าเพื่อนหรือครอบครัวรู้สึกอย่างไรกับเขา
  • เมื่อสิ่งนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องหรือกระทบกับความสัมพันธ์
  • เมื่อสิ่งนั้นจะทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย

 

เรื่องที่ไม่ควร White Lies

  • เรื่องการเงิน เช่น เมื่อมีปัญหาทางการเงินควรบอกให้คนใกล้ชิดรับรู้ เช่น การเป็นหนี้สินต่าง ๆ 
  • ปัญหาสุขภาพ เช่น ในกรณีที่ร้ายแรงถึงชีวิตก็ควรบอกให้คนไข้ ญาติคนไข้รับรู้
  • ความรู้สึกต่อคนอื่น เช่น ในวันนึงที่เรารู้สึกดีกับคนอื่นมากกว่าแฟนเรา

 

ผลเสีย White Lies

  • ดีในระยะสั้น แต่อึดอัดในระยะยาว
  • เมื่อไม่ใช่เรื่องจริงมันจะทำลายความไว้วางใจในบุคคลที่ถูกโกหก
  • ทำลายความน่าเชื่อถือของคนที่โกหก
  • สร้างความลำบากใจให้กับคนโกหก เช่น การที่ต้องฝืนกินข้าวที่ไม่อร่อยของแฟน แต่ต้องบอกว่าอร่อยเพื่อรักษาน้ำใจ
  • ขึ้นอยู่กับเรื่องใหญ่ เรื่องเล็ก และบุคคลที่เราโกหก ติดค้างในใจตัวเอง

Three Reasons Why White Lies Are The Worst Solutions To Your Problems บทความจาก Forbes

1. การโกหกเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจจะนำไปสู่การโกหกบ่อย ๆ ได้ง่ายขึ้น มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนข้อนี้ด้วย

 

การศึกษาใน Nature Neuroscience เสนอว่าการโกหกเรื่องไม่สำคัญทำให้สมองส่วนต่าง ๆ ของเรารู้สึกไม่สบายใจเมื่อเราโกหก

 

2. การโกหกเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจจะกระทบต่อชื่อเสียงหรือความน่าเชื่อถือ

 

3. มีทางเลือกที่ดีกว่าการโกหกเล็กๆน้อย

การโกหกเรื่องที่ไม่สำคัญเป็นเรื่องง่าย แต่มีวิธีที่สร้างสรรค์ในการพูดความจริงและให้เกียรติในเวลาเดียวกัน ตัวอย่างที่เขายกมาเป็นเรื่องของเค้กผลไม้โฮมเมดที่เพื่อนร่วมงานเอามาให้เรา

 

เราบอกเขาว่า “มันอร่อยมากเลย” แม้ว่าหลังจากนั้นเราจะทิ้งเค้กลงถังขยะก็ตาม เราอาจจะให้เหตุผลว่า จะพูดความจริงไปทำไมทั้งที่มันจะทำร้ายอีกฝ่าย

 

แต่อีกแง่นึงก็สามารถพูดประมาณว่า “ดีใจจริงๆ ที่คุณให้เค้กผลไม้โฮมเมด” หรือ “ขอบคุณที่นึกถึงกันนะ”

 

ทางออกที่ดีกว่าการ white lies

  • ทำความเข้าใจกับความสัมพันธ์ตั้งแต่แรก ๆ ว่าอีกฝ่ายเป็นคนอย่างไร รับความจริงได้ไหมถ้าบางอย่างที่พูดออกไป
  • ฝึกวิธีการพูดที่ถนอมน้ำใจคนฟัง
  • โทนเสียงในการพูดสำคัญมาก ๆ 
  • หาคน support ในการช่วยเราพูด

 

สิ่งนึงที่คิดว่าสำคัญมาก ๆ คือการสำรวจให้ลึกลงไปว่า เหตุผลเบื้องหลังการโกหกของเราคืออะไรกันแน่ เราโกหกเพื่อตัวเขาหรือเพื่อตัวเราเอง ถ้าเราเข้าใจตรงนี้

 

เราเองคงชั่งน้ำหนักกับตัวเองได้ว่า เราจะใช้ white lies หรือเลือกที่จะบอกความจริง การ white lies ผลลัพธ์จะจะดีหรือไม่ดีก็ขึ้นอยู่ที่ตัวของเราด้วย

 

ถามตัวเองว่าในเมื่อเราเลือกที่จะโกหกไปแล้ว เราจะสามารถยอมรับผลในระยะยาวถ้าความจริงปรากฎขึ้นมาได้ไหม และก่อนที่จะทำการ โกหกสีขาว

 

อาจจะต้องพิจารณาก่อนว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยจริงหรือเปล่า เพื่อให้ความสัมพันธ์ดำเนินไปอย่างราบรื่น

 

 

Types of Lies and Liars

What Is a White Lie?

White Lies vs. Real Lies

7 Seemingly Harmless White Lies That Can Actually Ruin Your Relationship

Are White Lies OK in Romantic Relationships?

Three Reasons Why White Lies Are The Worst Solutions To Your Problems