หนึ่งในคำถามยอดฮิตของคนในยุคปัจจุบันทำอย่างไร? ถึงจะมีความสุมากยิ่งขึ้น เพราะเป้าหมายต่าง ๆ ของเราไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องเงิน ก็ล้วนมีขึ้นเพื่อจุดมุ่งหมายปลายทางเดียวกันนั้นก็คือการที่เราอยากจะมีความสุข
กับ “ความสุขปัจจุบันสุทธิ” เขียนโดยคุณ ศ.ดร. นภดล ร่มโพธิ์ ที่พูดถึงวิธีการที่จะช่วยให้เรามีความสุขมากยิ่งขึ้น
Alljit ร่วมกับ อ่านแล้ว อ่านเล่า (ธนานนท์ โดมทอง) รายการที่จะพาคุณท่องเข้าไปในโลกของหนังสือ พร้อม ๆ กับท่องเข้าไปในจิตใจของตัวคุณเอง
ความสุขปัจจุบันสุทธิ
ทำอย่างไรเราถึงจะมีความสุขมากยิ่งขึ้น?
เราควรจะอดทนในสิ่งที่เราควรอดทน
“เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยอดทน” คำพูดนี้มีในคนทุกรุ่น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเราเป็นคนอ่อนแอหรือเปล่า หรือมนุษย์เราแย่ลงเรื่อย ๆ หรือเปล่า?
หากมองในอีกมุมหนึ่งแล้วตั้งคำถามว่า “เราหรือว่าเด็ก ๆ จะอดทนไปทำไม? ในเมื่อโลกในสมัยใหม่มีการเปลี่ยนแปลงไปตั้งเยอะเลย”
ถ้าเราลองนึกดูดี ๆ สมัยก่อนเราต้องรออะไรนาน ๆ แต่สมัยนี้อะไร ๆ ก็สะดวกรวดเร็วขึ้น เช่น การหาข้อมูลสมัยก่อนอาจจะต้องเปิดหาข้อมูลในหนังสือที่ห้องสมุด
แต่สมัยนี้เพียงแค่เสิร์ชหาในอินเทอร์เน็ต ความอดทนเป็นสิ่งที่ดีแต่มันก็มีจำกัดเช่นกัน เราควรเลือกใช้ความอดทนให้ถูกที่พิจารณาว่าอะไรที่เราควรอดทน อะไรที่เราไม่น่าที่จะอดทน
โดยตามหา lkigai ในเย็นวันศุกร์
Ikigai คือภาษาญี่ปุ่นที่มีความหมายว่าการค้นหาความหมายของการมีชีวิตอยู่ในเรื่องของงาน Ikigai
อธิบายอย่างง่ายคือวงกลม 4 วง หากวงกลมทั้ง 4 วงถูกทับซ้อนกันได้นั้นก็คือ งานที่มี Ikigai หรือสิ่งที่เราชอบและพร้อมที่จะทำอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ประกอบด้วย
1. สิ่งที่เรารัก
2. สิ่งที่เราเก่ง
3. สิ่งที่โลกต้องการ
4. สิ่งที่ทำเงินได้
ให้เราให้คะแนนงานที่เรากำลังทำอยู่โดยคะแนนเต็ม 10 แบ่งเป็น 4 วง ในแต่ละวงจะได้คะแนนเท่าไหร่บ้าง?
หากได้คะแนนเกิน 8 ในทุก ๆ วง แสดงว่าเราเจอ Ikigai หรืองานที่ใช่สำหรับเรา ถ้าเราอยากให้ถึงวันจันทร์เร็ว ๆ และเซ็งกับเย็นวันศุกร์ แปลว่าเราเอ็นจอยกับการทำงานในวันจันทร์ถึงศุกร์มาก ๆ
หากได้คะแนนสูงบ้างในบางวงเราก็ต้องพยายามดูว่า เราสามารถที่จะพัฒนาในด้านที่เหลือได้หรือเปล่า ถ้าเราร่าเริงในทุกเย็นวันศุกร์และหงาย ๆ ในวันอาทิตย์ก็อาจจะแสดงว่าเรายังหา Ikigai ของเราไม่เจอ
มีความสุขมากยิ่งขึ้น โดยวิธียิ่งรู้มากอาจจะรู้น้อย
เรามักจะเคยเจอคนประเภทที่ว่า รู้ไปทุกเรื่องตอบคำถามต่าง ๆ อย่างมั่นใจมาก ๆ ซึ่งตรงกันข้ามจากคนเก่งเพราะคนเก่งจะไม่มีพฤติกรรมเหล่านี้
และไม่เคยพูดว่าเขารู้เรื่องนั้นเรื่องนี้ทั้งที่จริงแล้วเขาเก่งมาก ๆ สิ่งที่บางทีคนรู้น้อยมั่นใจว่ารู้มาก
เรียกทางวิชาการว่า Dunning–Kruger effect คือคนที่ไม่เก่งที่มีความรู้น้อย เขาจะคิดว่าสิ่งที่เขารู้นั้นเยอะแล้ว แต่คนเก่งคนที่มีความรู้เยอะเขาจะรู้ว่ายังมีอีกมากที่เขายังไม่รู้
หากเรารู้สึกว่าเราเก่งมาก ๆ ก็อาจจะทำให้เราหยุดเรียนรู้ได้ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องระวัง
7 ข้อคิดของคนอายุ 30
1. สนใจเรื่องของสุขภาพ
2. ให้เวลากับพ่อแม่มากขึ้น
3. ให้เวลากับลุกและครอบครัวมากขึ้น
4. ทำงานให้น้อยลงใช้ชีวิตให้สมดุลมากขึ้น
5. ค้นหาตัวเองให้เจอ หาสิ่งที่เราชอบให้เจอ
6. เลิกกังวลกับเรื่องต่าง ๆ
7. ใช้ชีวิตในปัจจุบันอย่างมีความสุข
6 วิธีในการสร้างโชค
โชคมาจาก 3 อย่างด้วยกัน คือความสามารถ การทำงานหนัก ความบังเอิญ
2 ใน 3 ที่เราสามารถควบคุมได้คือ ความสามารถและการทำงานหนัก
1 ใน 3 ที่เราไม่สามารถควบคุมได้คือ ความบังเอิญ
วิธีการเพิ่มโชคคือ
1. อยู่ในที่ ๆ โชคอยู่ เช่น หากเราอยากเป็นดาราก็ควรพาตัวเองไปอยู่ในที่มีคนที่เป็นแมวมอง เพื่อเพิ่มโอกาสที่เราจะได้เป็นดารา
2. พยายามรู้จักคนให้เยอะมากขึ้น
3. กล้าคิดต่างจากคนอื่น
4. รักในสิ่งที่ทำและไม่ล้มเลิก
5. ลองทำหลาย ๆ อย่าง
6. เตรียมความพร้อมอยู่เสมอ
Post Views: 2,108