ความใกล้ชิด

ความใกล้ชิด ที่มากเกินไป ก็ทำลายความสัมพันธ์ได้

เรื่องAdminAlljitblog

พอพูดถึง ‘ความรัก’ การที่เราเป็นแฟนกัน ต้องอยู่ใกล้ชิดกันสิ การอยู่ด้วยกัน ตัวติดกัน มันเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ เลย แต่ ความใกล้ชิด ที่มากเกินอาจจะ ‘ทำร้าย’ ความสัมพันธ์ที่มีอยู่ก็ได้

 

ความใกล้ชิด

 

เพราะ ความรักคือการต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ไม่
ความรักคือการที่ “มีพื้นที่” ส่วนตัวของกันและกัน ใช่

 

พื้นที่ส่วนตัว กับ ความสัมพันธ์ สำคัญอย่าไร?

Terri Orbuch นักจิตวิทยา ศาสตราจารย์ด้านการวิจัยจากสถาบันวิจัยสังคมแห่งมหาวิทยาลัยมิชิแกน และผู้แต่ง Finding Love Again: 6 Simple

 

กล่าวว่า “การมีพื้นที่ว่างหรือความเป็นส่วนตัวเพียงพอในความสัมพันธ์ มีความสำคัญต่อความสุขของคู่รักมากกว่าการมีเพศสัมพันธ์ที่ดี” และการให้พื้นที่ส่วนตัว ช่วยยืดความสัมพันธ์ได้

 

ในการวิจัยนี้ Orbuch ศึกษาเกี่ยวกับการแต่งงานและการหย่าร้าง ตั้งแต่ปี 1990 และมีส่วนร่วมในการศึกษาเรื่องการแต่งงานระยะยาวในสหรัฐอเมริกา

 

ที่เรียกว่า The Early Years of Marriage Project ซึ่งในโปรเจกต์นี้ ได้ติดตามคู่แต่งงาน 373 คู่มานานกว่า 25 ปี พบว่าคู่รักกว่า 46% ในโปรเจกต์นี้ ได้หย่าร้างกัน

 

ในระหว่างการวิจัยค้นคว้า พบว่าคู่สมรส 29% กล่าวว่าพวกเขามี “ความเป็นส่วนตัวหรือเวลาสำหรับตนเอง ไม่เพียงพอในความสัมพันธ์”

 

โดยฝ่ายที่เป็นภรรยากว่า 31% บอกว่ามีพื้นที่ส่วนตัวไม่เพียงพอ และ 11.5% บอกว่า เหตุผลที่ไม่มีความสุขในชีวิตคู่ เพราะขาดความเป็นส่วนตัวหรือไม่มีเวลาให้ตัวเอง

 

 

ดร.Orbuch ก็สรุปเอาไว้ว่า การให้พื้นที่ส่วนตัว ช่วยยืดความสัมพันธ์ได้ เนื่องจาก การให้พื้นที่ส่วนตัวนั้น ทำให้มีความสุขมากขึ้น และรู้สึกเบื่อน้อยลง

 

เพราะเวลาส่วนตัวได้เอาไปประมวลผลความคิด ไปทำงานอดิเรก และผ่อนคลายตัวเอง โดยไม่ต้องรับผิดชอบต่อผู้อื่น ช่วยปลดปล่อยความเครียด และช่วยลดความกดดันในชีวิตคู่ลงได้ 

 

 

John Aiken นักจิตวิทยาด้านความสัมพันธ์และนักประพันธ์ก็รู้สึกเห็นด้วย เพราะการมีระยะห่างในความสัมพันธ์ จะกระตุ้นให้แต่ละฝ่ายไปรักษาความรู้สึกของตัวเอง

 

และรักษาตัวตนของตัวเองได้ในขณะที่ยังเป็นคู่รักกันอยู่ นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมความเป็นอิสระ และทำให้ความสัมพันธ์เหนียวแน่นมากกว่าการเกาะติดกันตลอดเวลาอีกด้วย

 

 

ความใกล้ชิด ในความสัมพันธ์บางทีก็สะท้อนถึงมุมสุขภาพจิต

 

Separation Anxiety โรควิตกกังวลจากการแยกจาก

 

อาการที่พบบ่อยในวัยเด็ก แต่ วัยผู้ใหญ่ก็สามารถเป็นได้เหมือนกัน 

 

หากตอนเด็กเราถูกละเลยหรือถูกทอดทิ้งบ่อย ๆ จะทำให้เราเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยหรือเกิดความไม่ไว้วางใจในตัวพ่อแม่หรือผู้ปกครองคนอื่น ๆ ของเรา

 

ก็จะนำไปสู่ “Anxious Attachment” หรือ “ความผูกพันแบบกังวล” พอโตขึ้นและมีความรักความสัมพันธ์เป็นของตัวเอง ก็อาจจะกลายเป็นคนขี้กังวลในความสัมพันธ์ได้ เช่น

 

  • กลัวถูกแฟนทิ้ง
  • อยู่คนเดียวไม่ค่อยได้
  • ต้องการความมั่นใจจากคนรักว่าเขารักเราจริงๆ

 

 

Dependent Personality Disorder (DPD)

พฤติกรรมพึ่งพาคนอื่นมากเกินไป ไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองได้ กลัวการแยกจาก ถ้าอีกฝ่ายต้องจากหรือห่างไปจะรู้สึกไม่สบายใจ

 

ต้องการการสนับสนุนทางจิตใจ ร่างกาย อยากให้อีกฝ่ายมาซัพพอร์ตไม่มั่นใจในตัวเอง 

 

 

สามารถกระทบกับความสัมพันธ์ได้อย่างไร . .

เช่น พอเรามีแฟนแฟนขอไปเที่ยวกับเพื่อน เราให้แฟนไปแต่ก็ขอไปกับแฟนด้วย ในครั้งแรกแฟนก็ให้ไปด้วย แต่ในความรู้สึกจริง ๆ เขาจะมีความพะวงว่าเราจะเบื่อไหม

 

เราจะสนุกไหม หรือจริง ๆ แล้ว แฟนขอไปกับเพื่อนเพราะว่าแฟนอยากไปใช้เวลาอยู่กับเพื่อนจริง ๆ ถ้าทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ การที่พึ่งพาแฟนมากเกินไป

 

โดยที่ไม่มีพื้นที่ส่วนตัวให้เขา พื้นที่สังคมให้กับเขาเลยอาจจะส่งผลให้กลายเป็น Toxic Relationship ได้ ลองนึกภาพว่าความสัมพันธ์เป็นวงกลมซ้อนทับกัน

 

วงกลมที่ซ้อนทับคือสิ่งที่เรามีเวลาร่วมกัน และก็ยังมีเสี้ยววงกลมของตัวเองทั้งคู่ พยายามอย่าให้วงกลมมันทับสวมรอยกัน เพราะนั้นอาจจะเป็นอะไรที่มากเกินไปของทั้งสองฝ่าย

 

 

ห่างแบบไหนถึงไม่ห่างเหิน

เราจะมีพื้นที่ส่วนตัวยังไงให้เรารักตัวเองไปด้วยและรักคนของเราไปด้วย 

 

  • รักษาความสัมพันธ์ เวลามีแฟนเรามักจะตัวติดกับแฟนจนบางทีเราก็หลงลืมความสัมพันธ์กับรอบตัวไปด้วย เราต้องรักษาระดับความสัมพันธ์กับแฟนและคนรอบตัว เพื่อนสนิท พ่อแม่ของเรา

 

  • คุยกันอยู่เสมอ คุยกันอยู่เสมอที่ไม่ได้แปลว่าคุยกันตลอดเวลา แต่เป็นการพูดคุยกันเพื่อให้เข้าใจตรงกันในความสัมพันธ์ เปิดใจคุยกัน 

 

  • รักษาความรักให้เหมือนใหม่อยู่เสมอ ถึงแม้ว่าจะคบกันมายาวนานอย่าลืมที่จะคอยหยอด หรือพูดหวาน ๆ ใส่กัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ อาจจะเป็นการให้กำลังใจให้รู้สึกว่าเรามีอีกฝ่ายอยู่ข้าง ๆ เสมอนะ

 

สุดท้ายมันเป็นคุณค่าของแต่ละคนที่ให้กับสิ่งหนึ่ง มันไม่มีผิดหรือถูก มันอาจจะเป็นแค่ว่าคุณค่าของเรามันตรงกับคุณค่าของอีกคนหรือเปล่า

 

อีกคนยอมรับได้กับคุณค่าที่เราให้หรือเปล่า ถ้าเห็นไม่ตรงกันก็อาจจะทำให้อึดอัด แต่ถ้าเห็นตรงกันต่างคนมันก็ต่างยอมรับได้และอยู่ด้วยกันได้ 😀

 

 

ที่มา :

 Separation Anxiety

Staying Compatible by Staying Yourself