The why cafe

ทำไมต้องรอ เมื่อทำได้ตั้งแต่ตอนนี้ The Why Cafe

เรื่องAdminAlljitblog

หนังสือ The Why Cafe คาเฟ่สำหรับคนหลงทาง

 

เขียนโดย จอห์น สเตรเลกกี

 

 

สำหรับเล่มนี้สิ่งที่รู้สึกสะดุดตาตั้งแต่แรกคือ หน้าปก ชื่อหนังสือ ‘ คาเฟ่สำหรับคนหลงทาง ‘  ไม่รู้จะเริ่มทำอะไรดีเลยสนใจซื้อหนังสือเล่มนี้

 

และสิ่งที่น่าสนใจคือ 3 ประโยค ของหนังสือเล่มนี้ที่เป็นหัวใจหลัก ๆ เลยคือ เหตุใดคุณจึงมาที่นี้,คุณกลัวตายไหม,คุณพึงพอใจกับชีวิตตัวเองหรือยัง?

 

* หนังสือเล่มนี้จะมี ตัวหลักอยู่ คือ จอน (คนหลงทางที่เข้ามาในคาเฟ่),เคซีย์ (พนักงานร้านคาเฟ่),ไมค์(เจ้าของคาเฟ่)

 

  • บทที่ 1

คุณกลัวตายไหม

 

นิยามของ ความสำเร็จ ความสุข ความพึงพอใจ ที่ถูกตั้งโดยคนอื่น

 

บทนี้ ไมค์ แนะนำให้ จอน พูดคุยกับ แอน (แอนคือลูกค้าอีกนึงคนที่เข้ามาใช้บริการคาเฟ่แห่งนี้เหมือนกัน) ซึ่งแอนได้ถามคำถามที่ปรากฎอยู่ตรงเมนูกับจอนว่า คุณกลัวตายไหม? 

 

เป็นคำถามที่คนส่วนใหญ่ทุกคนมักจะกลัว คนที่ไม่เคยถามตัวเองด้วยคำถามที่เห็นบนเมนู และไม่เคยลงมือทำสิ่งที่อยากให้บรรลุ ‘ เป้าหมายชีวิต ‘ คนเหล่านั้นจะกลัวตาย

 

ไมค์ก็บอกว่าตัวของเขาเองไม่ได้คิดถึงเรื่องความตายทุกวัน แอนเลยบอกว่า ไม่ใช่เลย เรื่องของ ความตายอยู่ในระดับจิตใต้สำนึก  การคิดถึงความตายไม่ได้อยู่อันดับแรก ๆ

 

ที่เราคิดแต่เรามักจะคิดว่าระหว่างที่เราใช้ชีวิตผ่านไปในแต่ละวัน มันใกล้กับความตายแล้วต่างหากเหมือนกับว่าเรามีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกเท่าไหร่

 

เราจะไม่กลัวการมีโอกาสทำบางอย่าง ถ้าได้ทำไปแล้วหรือกำลังทำมันอยู่

 

จอนทบทวนกับตัวเองว่า รู้แค่แนวคิดยังไม่พอสิ่งสำคัญคือการลงมือทำ

 

 

  • บทที่ 2

บทเรียนชีวิตที่หาได้จากเต่าตนุ

 

เคซีย์ พนักงานสาวในคาเฟ่ เล่าว่า ได้เรียนรู้บทเรียนชีวิตสำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง เกี่ยวกับการเลือกสิ่งที่จะทำในแต่ละวัน

 

วันหนึ่งเคซีย์ดำน้ำแบบสนอกเกิลแล้วบังเอิญได้เจอกับเต่าตนุ เคซีย์ดีใจและตั้งใจจะว่ายน้ำตามดูสักพัก แต่ว่ายยังไงก็ว่ายไม่ทัน พอสังเกตจริง ๆ เคซีย์ถึงเข้าใจว่า

 

เต่าตนุตัวนั้นใช้ประโยชน์จากกระแสน้ำ เมื่อไหร่ที่กระแสน้ำพัดไปในทางที่อยากไปค่อยตีขาว่ายไปทางนั้นและลอยตัวพักนิ่ง ๆ เมื่อกระแสน้ำพัดสวนทาง

 

เคซีย์กลับตีขาไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้สนใจว่ากระแสน้ำจะพัดไปทางไหน สุดท้ายจึงเหนื่อยและไม่มีแรงพอที่จะใช้ประโยชน์จากกระแสน้ำ

 

เปรียบได้ว่า เมื่อใครสักคนมีเป้าหมายชีวิต เรารู้ว่าตัวเองจะไปทางไหน เราจะใช้เวลาไปกับการทำสิ่งต่าง ๆ นั้นได้เต็มที่

 

แต่ถ้าไม่มีเป้าหมายชีวิต เราจะเสียเวลาทำแต่สิ่งที่ไม่ได้ช่วยให้เข้าใกล้เป้าหมายนั้น

 

ประโยคที่อยากบอกเล่าจากคนอ่าน

-“ความท้าทายคือการตระหนักว่าบางสิ่งบางอย่างน่าพึงพอใจ เพราะเราตัดสินว่ามันน่าพึงพอใจด้วยตัวเราเอง ไม่ใช่เพราะคนอื่นบอก”-

 

หลาย ๆ ครั้ง มาตรฐานทางสังคม มักจะเข้ามาทำให้เราสูญเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตของตัวเอง ถึงเราจะบอกตัวเองแล้วว่าเราเลือกแบบนี้

 

แต่พอได้ฟังความคิดเห็นคนรอบข้างหรือได้ฟังเรื่องราวของคนอื่น เรามักจะไขว้เขว แล้วกลับมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า สิ่งที่เราเลือก ณ ตอนนี้ดีพอหรือยัง 

 

เพราะมันยากจริง ๆ ที่จะบอกว่าเส้นทางที่เราเลือกมันดีพอ มันเหมาะสมกับเรา เป็นไปได้อยากที่จะตัดสินด้วยตัวเองว่า… สำหรับเรามันดีพอ

 

อยากพูดได้เต็มปากว่า “พอใจกับชีวิตและเส้นทางที่เลือกเดิน”  

 

คิดว่าต้องอาศัยการทุ่มเทแรงกายแรงใจที่ตัวเองมีเพื่อพิสูจน์ และที่ขาดไม่ได้คือ การเคารพตัวเอง

 

เพราะถ้ามองในอีกแง่ เราอาจจะยังเคารพการตัดสินใจของตัวเองไม่มากพอถึงยังเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น

 

สุดท้ายแล้วการตามหาเป้าหมายชีวิตในปัจจุบันทั้งยากและกดดันขนาดไหน เราจะพอรู้แต่หวังว่าเราจะหาสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขเจอ 😃