สื่อโซเชียลในยุคปัจจุบันมีค่อนข้างหลากหลาย บางคนที่เข้ามาคุยกับเราก็มีเจตนาที่ดี บางคนก็มีเจตนากลั่นแกล้ง บูลลี่ เรา
บทความนี้ Alljit ร่วมกับ คุณรัชดาภรณ์ ศรีวิลัย นักจิตวิทยาคลินิก พูดคุยในทุกประเด็นในเรื่องสุขภาพใจ ทำไมบางคนถึงชอบพูดให้คนอื่นรู้สึกเสียความมั่นใจและทำอย่างไรดีถ้ามาคนคิดไม่ดีกับเรา
เวลาที่เราโพสต์แล้วมีคนมาแสดงความคิดเห็น จะมีทั้งด้านดีและด้านไม่ดี เวลาที่คนมาชื่นชม ให้กำลังใจ กดถูกใจ ปลอบใจจนทำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้จากโพสต์นั้น แต่ถ้ามองอีกมุมในทางกลับกัน อาจเป็นลักษณะที่เราคาดหวังว่าจะได้อะไรดี ๆ กลับมา
แต่กลับได้คำพูดที่ทำร้ายจิตใจตัวเอง ยิ่งมาจากคนใกล้ชิด คนในครอบครัว เช่น อ้วนขึ้นหรือเปล่า ดำขึ้นใช่ไหม หน้าดูแย่ดูโทรมจัง พอเห็นแบบนั้นก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกแย่ ยิ่งถ้าทำพูดเหล่านั้นมาจากคนใกล้ชิด ที่เราคิดว่าเขาไม่น่าใช้คำพูดแบบนั้นกับเรา
คนที่โพสต์คงรู้สึกไม่ชอบใจนัก เพราะคำพูดเหล่านั้นจะเข้าไปกระทบความรู้สึกขาดความมั่นใจในตัวเอง ขาดการเห็นคุณค่าในตัวเอง
การ บูลลี่ คนอื่น ทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวด
ซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์รูปร่างหน้าตาของคนอื่น ทำให้คนอื่นเกิดความรู้สึกแย่ รู้สึกอับอาย และไม่สามารถปล่อยวางได้ในทันที จนเกิดความรู้สึกเจ็บปวด เจ็บใจ เศร้า เสียใจ หดหู่ และมองตัวเองในด้านลบ จนอาจจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า และการนับถือตัวเองต่ำลง
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ง่ายเพราะมีความคิดมาจากพื้นฐานความงาม ที่ถูกปลูกฝังมาว่าต้องเป็นแบบนี้ถึงเรียกว่าสวย แบบนี้นะถึงเรียกว่าหล่อ
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องที่คนเราตั้งมาตรฐานเองขึ้นมา แล้วมาวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นเขา ส่วนมากจะเกิดจากคนใกล้ชิดที่พูดไม่คิด เห็นเป็นเรื่องปกติ แต่คนที่ถูกกระทำอาจไม่ได้คิดแบบนั้น
เปลี่ยนคำทักทายที่ทำให้รู้สึกแย่ เป็นการชื่นชมพวกเขา
ถ้าตอนนี้เราเป็นคนที่เคยทำแบบนั้นแล้วกำลังตระหนักได้แล้วว่านั่นคือการบูลลี่และส่งผลแย่ให้กับคน ๆ หนึ่งได้ ลองเปลี่ยนคำทักทายให้ดีขึ้น เป็นคำถามที่ดูนุ่มนวล คำทักทายทั่วไป
เช่น ถ้าเห็นเขาโทรม อาจถามว่า ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง สบายดีหรือเปล่า
ถ้าคุณเป็นคนที่เคยแสดงความคิดเห็นที่ไม่ดีต่อคนอื่น อยากให้ลองคิดถึงหลักการพูดที่มีหลากหลาย เริ่มจากการฝึกฝน ลองปรับตัวเอง เลือกใช้คำพูดที่เหมาะสม
เพื่อให้คนรับฟังเขาไม่รู้สึกแย่กับสิ่งนั้น บางคนอาจมองว่าเป็นเรื่องปกติหรือเป็นเรื่องตลก แต่จริง ๆ เป็นการทำร้ายคนอื่นด้วยการกระทำด้วยคำพูด จนไปสร้างบาดแผลลึกให้กับเขา
รับมือกับคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร?
1. ทบทวนตัวเอง
ค่อย ๆ ทบทวนตัวเอง เอาคำพูดนั้นมาคิดไตร่ตรองว่าตัวเราเป็นแบบนั้น อย่างที่เขาพูดหรือเปล่า มีข้อจำกัดอย่างที่เขาพูดไหม เพราะคนเรามีความสวย ความน่ารัก ความหล่อในรูปแบบของเรา แต่ขึ้นอยู่กับเราภูมิใจในตัวเองไหม
ถ้าเรายอมรับตัวเอง เราชอบที่เราเป็นแบบนี้ ที่เป็นแบบนี้ดีอยู่แล้ว เรารักตัวเอง และสิ่งที่เราเป็นก็ไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร ถ้าเราชอบตัวเองแบบนั้น
ลองคุยกับใครสักคนเพื่อยืนยันในสิ่งที่เราเป็น คนที่เราไปคุยด้วยอาจจะช่วยบอกกับเราว่า เราไม่ได้แบบที่คนนั้นพูดนะ เขาอาจจะให้กำลังใจ ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้ เป็นการเพิ่มการเห็นคุณค่าในตัวเอง
2. หลีกเลี่ยง Toxic People
หลีกเลี่ยงคนที่มีแต่ความคิดด้านลบ อยู่กับคนแบบนี้จะยิ่งทำให้เราสุขภาพจิตเสีย ลองพิจารณาว่าเราอยากจะอยู่กับคนที่ความคิดแบบนี้หรือเปล่า อยากบอกว่าเราไม่สามารถไปเปลี่ยนเขาได้ แต่ที่เราทำได้คือการเลี่ยงคนเหล่านั้น
เพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกแย่ ให้เขามาทิ่งแทงความรู้สึกเรา ติดต่อแค่เรื่องที่จำเป็น จงปกป้องตัวเอง ปกป้องความรู้สึกของตัวเองจากสิ่งนั้น ถ้าเขาถามว่าทำไมเราต้องปิดกั้น
อาจพูดกับเขาตรง ๆ ว่าเราไม่ชอบที่เขามาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องรูปร่างหน้าตา อาจช่วยให้เขาเห็นตัวเองมากขึ้นและอาจจะตระหนักได้ แต่บางคนก็อาจจะตระหนักไม่ได้ แต่เราบอกเขาได้ว่าเราชอบหรือไม่ชอบอะไร
3. เอาใจเขามาใส่ใจเรา
ลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าเราอยู่ฐานะที่ถูกวิพากษ์จารณ์ ลองคิดว่าเขาเป็นแบบนี้ เขารู้สึกแบบนี้ เลยแสดงความคิดเห็นแบบนี้ออกมา เขาอาจคิดว่าเราควรปรับปรุงอะไรหรือเปล่า
การที่เขาพูดแบบนี้อาจมีอะไรซ่อนอยู่ ถ้าเราเห็นมุมนั้นอาจช่วยให้เราปล่อยวางลงได้ ทำให้เราเห็นอะไรมากยิ่งขึ้น
เราอาจะเป็นลูกเป็ดขี้เหร่สำหรับใครคนหนึ่ง แต่เราก็อาจเป็นเจ้าหญิงสำหรับใครหลาย ๆ คน อย่าโกรธตัวเอง อย่าเกลียดตัวเอง เพียงเพราะมาตรฐานที่ใครก็ไม่รู้กำหนดขึ้นมา อย่าพยายามเป็นเหมือนคนอื่น เรามีข้อจำกัดของตัวเอง
อย่าไปเสียเวลาใช้ชีวิตตามคำพูดของคนอื่น อย่าไปเสียเวลากับคำวิพากษ์วิจารณ์ของคนอื่น เขาไม่สามารถตีกรอบให้เราเป็นอย่างที่เขาอยากให้เป็นได้ อย่าให้สิทธิของคนอื่นเข้ามามีอิทธิพลกับตัวเรา
เราเกิดมามีเพียงคนเดียว ไม่มีใครเหมือนเรา แล้วเราก็ไม่มีทางเหมือนใคร
Post Views: 2,664